ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” นายกฯ แพทองธาร เซ็นคำสั่ง แบ่งงาน รองนายกฯ จับตากม.สำคัญ-งบ' 69 จ่อ สะดุด!

21 มิ.ย. 2568 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มิ.ย. 2568 | 10:26 น.

ไร้ชื่อ  “พีระพันธุ์   สาลีรัฐวิภาค ”  ในกลุ่มงานผู้รับมอบหมายหลัง นายกฯ “แพทองธาร” เซ็นคำสั่ง แบ่งงาน รองนายกฯหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล จับตารัฐนาวาปริ่มน้ำ กฎหมาย –งบประมาณปี69 อาจถึงทางตัน

สร้างความสั่นคลอนไม่น้อยสำหรับ รัฐนาวา ของนางสาวแพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่หลายฝ่ายมองว่า ขาด เสถียรภาพ  ภายหลังจาก “พรรคภูมิใจไทย” ซึ่งมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) มากที่สุดถึง 69เสียง  ประกาศถอนตัว จากพรรคร่วมรัฐบาล ขณะเดียวกันมีพรรคร่วมจำนวนหนึ่งขอไปต่อ

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และแพทองธาร ชินวัตร

ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีต้องลงนามในคำสั่ง แบ่งงานใหม่ โดยเฉพาะ ตำแหน่งสำคัญคือรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลแพทองธาร2 เป็นไปอย่างราบรื่น  และเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่ปรากฎชื่อของนาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคหัวหน้าพรรครวมไทยรักษาชาติ  ในกลุ่มงานที่ได้รับมอบหมาย

 

สะท้อนได้หลายประการ คือ การต่อรองของนายพีระพันธุ์ที่ร่วมรัฐบาลต่อแต่ต้องให้นางสาวแพทองธาร ลาออก เนื่องจากปมคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซนหลุด มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ ส.ส.กลุ่ม18  นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น ล่าชื่อยื่นถอดถอนหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ออก ตามที่เป็นข่าว หรือในทางกลับกันกรณี นายพีระพันธุ์  ยื่นข้อเสนอ กดดัน ทำให้ นายกรัฐมนตรีลาออก ปมคลิปเสียงหลุดจากการสนทนากับ สมเด็จฮุนเซน ทำให้ ถูกขับออกเสียเอง ผลที่ตามมา กลุ่มส.ส.ทั้ง18คนฟากของนายพีระพันธุ์ อาจถอนตัวตามด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลได้ออกมาชี้แจงว่า นายพีระพันธ์ ที่มีรายชื่อเดิมอยู่ก่อนแล้วจึงไม่จำเป็นต้องประกาศใหม่

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำน่ากังวล ว่าการผลักดันงบประมาณปี2569 ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาวาระที่2และ3รวมถึงกฎหมายสำคัญเช่นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ตั๋วร่วม รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย จะประคับประคองไปต่อได้หรือไม่ เช่นเดียวกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57แสนล้านบาท จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้อนุมัติขับเคลื่อนใดๆออกมา

 อย่างไรก็ตาม คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ที่ 184 / 2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 19 ก.ย.2567

คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 77/2567 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 ม.ค.2568 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 24 มี.ค.2568 นั้นเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่

16 ก.ย.2567 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103 /2568 ลงวันที่ 24 มี.ค.2568

1.ให้ยกเลิกส่วนที่ 4แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567

2.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี

ให้ยกเลิกความในข้อ 1.1.แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงกลาโหม 2.กระทรวงมหาดไทย 3.กระทรวงยุติธรรม 4.สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 5.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ 6.สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบัณฑิตยสภา)

3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกความในข้อ 2.1 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงการต่างประเทศ

2.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 3.กระทรวงคมนาคม 4.กระทรวงแรงงาน 5.กระทรวงวัฒนธรรม และ6.สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกความในข้อ 2.1 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการเทพมายกรัฐมายหรือ ดังนี้

1.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม2.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม4.กระทรวงศึกษาธิการ5.กระทรวงสาธารณสุข6.กรมประชาสัมพันธ์7.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและ8.สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง

อย่างไรก็ตาม ให้ยกเลิกความในข้อ 6.3 แห่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 313/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103/2568 ลงวันที่ 24 มี.ค.2568

และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน การมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้

1.สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ 2.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหารมหาชน) 3.สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ 4.สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) 5.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 6.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิจิทัล (องค์การมหาชน) 7.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม และ

8.สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 20 มิ.ย.2568