สถานการณ์การเมืองไทยสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ความยาว 17.06 นาที ถูกเผยแพร่จากสื่อกัมพูชามายังประเทศไทย นำไปสู่กระแสเรียกร้องจากหลายภาคส่วนให้ "นายกรัฐมนตรี" แสดงความรับผิดชอบ
ฐานเศรษฐกิจ ประมวลท่าทีจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน การเมืองในสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รวมไปถึงนักร้อง พบความเคลื่อนไหวดังนี้
แรงกระเพื่อมทางการเมืองเกิดขึ้นทันทีเมื่อ พรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจถอนตัวออกจากรัฐบาล พร้อมออกแถลงการณ์กดดันให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบต่อการทำให้ประเทศ “เสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ และกองทัพ”
ด้าน พรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันจุดยืนปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างเร่งด่วน
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญกรรมการบริการบริหารพรรค ประชุมด่วนเรื่องสถานการณ์การเมือง ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลา 17.00 น. ในวันนี้ (19มิ.ย.68)
ขณะเดียวกัน พรรคชาติไทยพัฒนา เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมการดำเนินงานของพรรคชาติไทยพัฒนา ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 16.30 น. ณ ห้องประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา ชั้น 2 สำนักงานใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา ถ.พิชัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม.
ด้าน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความและภาพ ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยันภารกิจปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทย สนับสนุนแนวทางของรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ ยึดหลักสันติวิธีในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีพลังใดจะเหนือกว่า พลังสามัคคีของคนไทย เพื่อประเทศไทย
ฝ่ายค้านหลายพรรคขานรับสถานการณ์นี้อย่างรุนแรง โดย พรรคพลังประชารัฐ ออกแถลงการณ์ระบุชัดว่า นายกรัฐมนตรีขาดชั้นเชิงในการเจรจา สะท้อนถึงความอ่อนแอของผู้นำ และเสนอให้นายกรัฐมนตรี “ลาออก” เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ
พรรคไทยสร้างไทย และ พรรคประชาชน ก็ร่วมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน
โดยเฉพาะ สส.เท้ง-นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ออกแถลงการณ์ 6 ข้อจี้นายกรัฐมนตรีชี้แจงบทบาทและท่าทีต่อกองทัพ พร้อมตั้งคำถามถึงวุฒิภาวะและความเหมาะสมในการเป็นผู้นำ
แรงเสียดทานลามถึงวุฒิสภา เมื่อ คณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภา เตรียมยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีผ่านกลไกของรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าคลิปเสียงดังกล่าวส่งผลต่อเกียรติภูมิของประเทศและกองทัพ เป็นการแสดงท่าทีที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำ และเข้าข่ายละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้จัดทำแนวทางการสื่อสารระดับสูงที่มีระบบ และเน้นบทบาทผู้นำประเทศในบริบทระหว่างประเทศอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต
ประธานวุฒิสภาเรียกประชุมวิปวุฒิสภาเป็นกรณีพิเศษ มีมติเตรียมเปิดอภิปรายโดยไม่มีการลงมติในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คณะรัฐมนตรีชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะที่ระหว่างนี้ได้ให้กรรมาธิการสามัญเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแนวทางคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักร้องเรียนมืออาชีพ เตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบว่านายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 และ 170 ซึ่งเกี่ยวกับ “ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” อันเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงได้ พร้อมอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาประกอบคำร้อง