"อภิสิทธิ์"ยัน"กาสิโน"ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นท่องเที่ยว

05 มิ.ย. 2568 | 06:16 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มิ.ย. 2568 | 06:37 น.

อดีนายกฯ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ชี้“กาสิโน”ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นท่องเที่ยว ได้ไม่คุ้มเสีย ข้องใจทำไมมีแค่สถานบันเทิงอย่างเดียวไม่ได้ ห่วงจีนส่งสัญญาณห้ามมาเที่ยวไทย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิสภา โดยยืนยันมีจุดยืนชัดเจนกับเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่เป็นรัฐบาล มีการเสนอเรื่องนี้เข้ามา แต่ก็ปฏิเสธด้วยเหตุผล คือ เราสัมผัสได้ถึงอันตรายจากคนที่ไปเกี่ยวข้องกับการพนัน 

ส่วนที่รัฐบาลชุดนี้มองธุรกิจเป็นโอกาส  ก็พบความเป็นจริงว่า การประกอบธุรกิจแบบนี้ แม้จะทำให้ถูกกฎหมาย ก็ไม่สามารถลดในส่วนที่ผิดกฎหมายได้ เพราะการเอาขึ้นมาบนดินต้องมีกฎกติกากำกับ ในขณะที่ธุรกิจผิดกฎหมายไม่ต้องมี 

ดังนั้น หากจะมองเป็นเรื่องสินค้าและบริการ จะได้เปรียบและเสียเปรียบกันอยู่ ยกตัวอย่าง การมีล็อตเตอรี่ กับ หวยใต้ดิน อีกทั้งฝ่ายบริหารกำหนดผู้เล่นว่าต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท ในเวลา 6 เดือน จำนวนคนที่ไปเล่นก็จะน้อยลง หากเป็นในแนวทางนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการนำสิ่งผิดกฎหมายขึ้นมาบนดินแน่นอน 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลมักจะยกตัวอย่าง สิงคโปร์ แต่เวลาเราไปจับแหล่งอาชญากรรม หรือ การฟอกเงิน ก็มักจะพบว่าแถวนั้น มีกาสิโนอยู่ใกล้เคียงเสมอ และที่บอกว่าให้เอาตัวเลขการท่องเที่ยวของสิงคโปร์มาเทียบ ถามจริงๆ ว่าเทียบกับประเทศไทยได้จริงหรือ 

พร้อมย้ำว่า  สามารถมีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์โดยไม่มีกาสิโนได้ ดังนั้น การที่รัฐบาลบอกว่าไม่มีกาสิโน แล้วบอกว่าสถานบันเทิงไม่มีทางเกิดนั้น ทำไมไม่ลองออกกฎหมายโดยไม่มีกาสิโน  

"ถ้าไม่มีกาสิโนแล้วลองออกกฎหมายให้ สิทธิพิเศษกับธุรกิจอื่น ผมไม่เชื่อว่าจะไม่มีการลงทุนเรื่องนี้ เพราะทุกวันนี้ผมก็เห็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยว โดยฝีมือมนุษย์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ตลอดเวลา อยู่ว่างๆ นั่งดูยูทูปฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย จะพบว่า มีของใหม่ๆ ที่เราสร้างขึ้นเป็นแหล่งดึงดูด เขาก็เผยแพร่ทั่วตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนจากกาสิโน 

                              อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร

ที่สำคัญ ในที่สุดหากถามว่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากกาสิโนในด้านเศรษฐกิจ จนเรียกร้องให้มีการศึกษา เพราะถ้าเราเอาตัวเลขของภาคเอกชน ที่เป็นผู้ประกอบการมา เวลาที่บอกว่ามีแหล่งช้อปปิ้งใหม่เกิดขึ้นระดับใหญ่โต รายได้จะมีเท่านี้เท่านั้น หรือว่า รายได้ทั้งหมดนั้นที่เกิดขึ้นเป็นรายได้ใหม่ ไม่เป็นลดรายได้ของศูนย์การค้าที่มีอยู่ปัจจุบันหรือ ดังนั้น ผลประกอบการที่ได้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศ

ทั้งหมด เพราะผมไม่เชื่อว่า ถ้าไม่มี  จะไม่มาเมืองไทยเลย ต้องถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีปัญหาว่าอุปทานไม่พอจริงหรือ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธว่าบางกรณีอาจจะเป็นสินค้าใหม่ แต่จะบอกว่าใหม่ โดยไม่ทดแทนของเก่าเลยก็ไม่ใช่ เพราะ ทรัพยากรที่เข้าไปหมุนเวียนไม่ได้เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เปลี่ยนเวย์มาจากที่อื่น ซึ่งยังไม่นับรวมว่าโครงการที่จะเกิดขึ้น ทรัพยากรที่รัฐจะต้องใช้ของรัฐ ซึ่งขณะนี้ตนฟังดูน่าจะชัดเจนแล้วว่า จะต้องไปตั้งพื้นที่ของรัฐ ก็ต้องถามว่า แล้วที่ของรัฐเหล่านั้น ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ก็ต้องคำนวณด้วยว่าต้องสูญเสียไป

เช่น ถ้าเคยมีท่าเรืออยู่ ถ้าเอาออกไป จะบอกว่าตรงนี้มีรายได้เท่านี้ ก็ต้องถามว่าสิ่งที่ท่าเรือเคยสร้างรายได้ ก็ต้องไปหักเช่นกัน แต่ถ้าไปเอารายงานของผู้ประกอบการ เขาไม่คำนวณเรื่องพวกนี้ แต่รัฐบาลเป็นผู้บริหารประเทศต้องคำนึงถึงตรงนี้

อดีตนายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นรายได้กาสิโน ถ้าอ้างเรื่องการสร้างงาน มีแน่ แต่สร้างอย่างอื่นก็มีเช่นกัน และงานที่จะถูกสร้างขึ้นในตัวกาสิโน ก็ไม่ใช่เป็นตำแหน่งงานที่มีคุณภาพสูง หรือ เป็นจำนวนมาก หรือ มีหลักประกันว่าจะไม่เป็นคนต่างชาติอีก แต่เอากาสิโนอยู่ในสถานประกอบการอื่น ตนก็ยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวมาได้โดยไม่มีกาสิโน ถ้าเราได้แรงจูงใจที่ดีพอ 

ส่วนภาษีที่เก็บได้ เป็นประโยชน์ที่จะเข้าสู่รัฐ และได้มาจากรายได้ของตัวกาสิโนนั้น  รายงานที่ตนดูและศึกษาเรื่องนี้ น่าจะมีเพียงร้อยละ 20 จากต่างชาติ และคนไทย ร้อยละ 80  หากนับรวมภาษีที่รัฐบาลจะจัดเก็บได้ น่าจะน้อยกว่าเรื่องอื่นที่อยู่นอกกาสิโน และตอนนี้ผู้ประกอบการที่เข้ามาเริ่มเคลื่อนไหวอยู่ในนี้ ส่งสัญญาณแล้วว่าถ้าอยากให้มา อัตราภาษีต้องแข่งขันกับที่อื่นได้ ก็แปลว่า เก็บภาษีสูงก็ไม่ได้อีกและอ่านจากกฎหมายก็น่าจะเก็บค่อนข้างต่ำด้วยซ้ำ ทั้งที่ตัวนี้เป็นประโยชน์ 

“ถามว่าส่วนที่เก็บจากคนไทยที่เข้าไปเล่น ถ้าคิดในเชิงรายได้ต้องถามว่าเงินตัวนี้มาจากไหน มาจากคนที่เข้าไปเล่นแล้วเสีย ซึ่งถ้าประเมินประมาณร้อยละ 20  ภาษีเกิดขึ้นจากคนที่เล่นเสียเอามาให้คนที่ได้ จึงอยากให้ตระหนักในเรื่องเหล่านี้”

                           อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตนไม่ได้มองว่า เมืองไทยมีความจำเป็นต้องนำกาสิโนมาเป็นตัวดึงดูดให้คนท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปด้วย ยิ่งถ้าเปิดหลายแห่งเปิดหลายเมืองก็ยิ่งกระทบ 

ห่วงไทยมีกาสิโนจีนไม่มาเที่ยว

ถ้าจำได้ วันที่ผู้นำไทยไปเยือนจีน เป็นเรื่องแปลกที่ผู้นำจีนเอ่ยเรื่องนี้มา เพราะจีนมีกฎหมายที่บอกว่าคนจีนจะไปเล่นการพนัน ที่อื่นก็ผิดกฎหมายจีน หมายความว่า จีนไม่สนับสนุนให้คนจีนเล่นการพนัน ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม และปัญหาก็คือว่า เวลามีท่าทีเหล่านี้ ก็จะไม่จำแนกแยกแยะว่า คนจีนมาเล่นการพนัน หรือ มาท่องเที่ยว แต่อาจจะมีการสนับสนุน ไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนมีประมาณ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้น ถ้าจะคำนวณว่ากาสิโนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ต้องมาหักลบตรงนี้ด้วย และคำถามก็คือว่าจะคุ้มกันหรือไม่ 

"ผมขอพูดเป็นประเด็นสุดท้ายว่า เวลาพูดถึงข้อดี หรือ พูดถึงการป้องกันข้อเสียต่าง ๆ มันจะทุกอย่างไม่ได้ อย่างตัวเลขที่ผมอ้างถึง ว่ามีการศึกษามาแล้ว อย่างกรณีของคณะกรรมการวิสามัญก็บอกแล้วว่า ในที่สุดรายได้ของกาสิโน ที่เข้ามาเมืองไทยเกือบ 80% ตัวเลขที่น่าตื่นเต้นที่สุดเข้าใจว่า ทำโดยซิตี้แบงก์ อาจจะเกิดรายได้ ปีละ 3 แสนล้านบาท 

ถ้าเราเก็บภาษีสักยี่ 20%  ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ใหญ่พอสมควร แต่ท่านต้องไปดูว่าสมมติฐานนั้น บอกว่ารายได้มาจากไหน เขาบอกว่ารายได้ส่วนใหญ่เลย ไปดูตารางมาจากการเปิดกาสิโนที่กรุงเทพฯ และที่ อีอีซี สมมติฐานของประชากรที่อยากเข้าไปเล่น กรุงเทพฯ ประมาณ 5ล้านคน เล่นปีละ 3 ครั้ง 

เพราะฉะนั้น ผมตั้งสมมติฐานกลับมาว่า จะมีคนไทยเข้าไปเล่นวันละ 40,000 คน ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าอยากได้เยอะๆ ไม่ต้องกลัว คนจะเข้าไปเล่นเยอะๆ มันเป็นไปไม่ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะเรียนว่า ยิ่งเห็นตัวเลขเหล่านี้ ผมก็ยังยืนยันความเชื่อและเหตุผล ที่มีมาตลอด 30 กว่าปีที่เข้ามาทำงานการเมือง ว่าผลได้จากนโยบายนี้ ไม่น่าจะคุ้มกับผลเสียและความเสี่ยงที่จะตามมาอีกมากมาย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว