ด่วน ศาลรธน.มติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องวินิจฉัย “เศรษฐา” ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

23 พ.ค. 2567 | 05:11 น.

ศาลรธน.มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับวินิจฉัยสถานะนายกฯ ปมผิดจริยธรรมตั้ง"พิชิต"นั่งรมต. มติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้ชี้แจงใน 15 วัน ตีตกคำร้อง “พิชิติ” เหตุพ้นจากตำแหน่งแล้ว

วันนี้(23 พ.ค. 67 ) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 48 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4)ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) หรือไม่ 

จากกรณีนายเศรษฐา ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพิชิต ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก นายพิชิต เคยถูกศาลฎีกามีคำสั่ง จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

                              ด่วน ศาลรธน.มติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องวินิจฉัย “เศรษฐา” ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

เนื่องจากศาลฯ พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ2561 มาตรา 7(4) และให้นายกรัฐมนตรียื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน15วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 54

ทั้งนี้เสียงข้างน้อย 3 เสียงในประเด็นนี้ได้แก่ 

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 

นายอุดม รัฐอมฤต 
และ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ 

 

ส่วนกรณีของนายพิชิต ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้มีคำร้องของ นายพิชิต ลงวันที่ 23 พ.ค. 67 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 67 นายพิชิต ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้ว 

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของ นายพิชิต สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (2) กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 51 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8ต่อ1  มีคำสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของ นายพิชิต ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดย 1 เสียงข้างน้อยได้แก่ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีขอให้ นายเศรษฐา ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง 

แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและ เอกสารประกอบคำร้อง ในชั้นนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่  โดยตุลาการเสียงข้างน้อย ได้แก่ 

นายปัญญา อุดชาชน 

นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 

นายวิรุฬห์ แสงเทียน 

และ นายจิรนิติ หะวานนท์


สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ประกอบด้วย 

1.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 

2.ปัญญา อุดชาชน 

3.อุดม สิทธิวิรัชธรรม 

4.วิรุฬห์ แสงเทียน 

5.จิรนิติ หะวานนท์ 

6.นภดล เทพพิทักษ์ 

7.บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ 

8.อุดม รัฐอมฤต 

9.สุเมธ  รอยกุลเจริญ