“ทักษิณ”ลั่น “วันนี้กลับมา ใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่ไป”

16 มี.ค. 2567 | 08:55 น.

“ทักษิณ”แจงปมดราม่า “วันนี้กลับมา ใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่ไป” ให้กำลังใจ “นายกฯ นิด” เดินหน้าแก้เศรษฐกิจ ชี้วิกฤติกว่าต้มยำกุ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงภารกิจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 16 มี.ค. 2567 ว่า เมื่อเวลา 13.30น. ที่ร้านอาหารลำดี ตี้ ขัวแดง นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ตลอด 3 วัน ว่า อบอุ่น ดีใจ 17 ปีที่หายไปกลับมาก็คิดถึงบ้านเกิด เมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ เป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น 

ส่วนช่วงสงกรานต์จะกลับมาเชียงใหม่อีกหรือไม่นั้น ตนก็ตั้งใจอยู่ เพราะมีความรักในวัฒนธรรม อยากกลับมา เพราะเขามีประเพณีรดน้ำดำหัว ก็คงว่าจะกลับมา 

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงถึงกระแสข่าวดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลับถึงประเทศไทย และออกจากโรงพยาบาล ว่า “คำว่าดราม่าก็คือเรื่องไม่จริง จบโอเคไหมครับ”  

ส่วนการเดินทางมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการป่วย นายทักษิณ ตอบว่า “ผมมองว่าไม่เป็นไร ภาวะจิตใจคนสำคัญกว่า ถ้าภาวะจิตใจแย่ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นรวนตามไปได้”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตอนนี้สภาพจิตใจดีเกิน 100% หรือยัง  นายทักษิณ กล่าวว่า ใจมันดี เพราะมีลูกสาว มีลูกชายอยู่ใกล้ๆ และยังมีหลานๆ อีก 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่ ในวัย 75 ปี ยังไงก็โปรดเข้าใจ และเห็นใจคนแก่ในวัย 75 ปีด้วย ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน 

"วันนี้กลับมา ใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่ไป” นายทักษิณ ระบุ

พร้อมยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีอาการป่วยจริง แต่กำลังใจดี  ทำให้หลายอย่างดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ยังมีปัญหาการกดประสาทของกระดูก ที่คอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ป่วยโควิด-19 ตอนนั้นอาการหนักมาก ต้องนั้นนอนไอซียูไป 9 วัน ข้างในก็ได้รับผลกระทบตอนนี้ยังมีปอดที่ยังคงมีจุดอยู่

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว พูดเสริมขึ้นมาว่า “พ่อไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองป่วย”  

นายทักษิณ จึงพูดต่อว่า พยายามอย่างยิ่งให้ยอมรับว่า ตัวเองอายุ 75 ปีแล้ว แต่ไม่อยากจะยอมรับความแก่ ทั้งที่มันคือธรรมชาติ แต่บางที เราต้องฝืนมันเพราะไม่อยากแก่ 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าใครดื้อกว่ากันระหว่างพ่อกับลูก น.ส.แพทองธาร เอามือชี้ไปที่นายทักษิณ ก่อนหัวเราะและบอกว่า “คนนี้ค่ะ ไม่ยอมรับว่าป่วย จนกระทั่งได้ผ่าตัด และออกจากไอซียู ถึงจะได้รู้ว่าตัวเองป่วย”

เมื่อถามว่านอกจากช่วงสงกรานต์ ที่จะกลับมาเชียงใหม่แล้วมีกำหนดจะไปที่ไหนอีกหรือไม่  นายทักษิณ ตอบว่า “ยังไม่ได้คิด แต่ก็ห่วงบ้านเมืองหลายเรื่อง อยู่โรงพยาบาลตำรวจ 6 เดือน ดูข่าวตลอด ดูทีวีทุกช่อง เวลามีอะไรที่กังวล ก็จะจดไว้เยอะมาก” 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการเดินสายพบแกนนำคนเสื้อแดงพื้นที่อื่นๆ หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่คิดตอนนี้ ขอใช้เวลากับครอบครัว มีอะไรก็จะเขียนแนะนำรัฐบาลบ้างเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะผมเป็นห่วงบ้านเมือง 

เมื่อถามอีกว่ามีเสียงคนเสื้อแดงออกมาบอกน้อยใจที่ยังไม่ได้พบ นายทักษิณ กล่าวว่า อย่าเพิ่งน้อยใจเลย ทุกอย่างต้องใช้เวลา ตนเพิ่งมาถึงก็ต้องระมัดระวังความประพฤติของตัวเองด้วย ตนมาเครื่องบิน มาถึงบ้านช้ากว่าเรืออีก เรือใช้เวลาเดินทาง 1 เดือนถึงบ้าน แต่ตนมาเครื่องบินแท้ๆ ใช้เวลา 6 เดือนกว่า 

เมื่อถามย้ำอีกว่าจะได้เจอนายทักษิณ อีกครั้งเมื่อไหร่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่รู้เลย

เมื่อถามว่ากลับเชียงใหม่รอบนี้ มองว่าอะไรควรพัฒนาเพิ่มมากขึ้นบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาหนักที่สุด ซึ่งเป็นห่วง และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ก็ทราบปัญหาและจะรีบแก้ไขอยู่แล้ว และตนยังมองว่าความแห้งแล้ง อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก จะทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นเขียวได้ และจะทำให้อากาศกลับมาสภาพดี ซึ่งตนเป็นห่วงเพียงเท่านี้ 

แต่ถึงอย่างไรเศรษฐกิจก็ต้องดี ซึ่งก็เชื่อว่านายกฯ ก็วางแผนที่จะฟื้นเศรษฐกิจ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม 

พร้อมเปรียบว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบากให้กำลังใจ นายกฯ นิด วิกฤติกว่าต้มยำกุ้ง"

เมื่อถามว่าให้กำลังใจนายเศรษฐาเรื่องอะไรบ้าง นายทักษิณ ตอบว่า  ให้กำลังใจท่านทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะมีความซับซ้อนและยากมากกว่า ฝ่ายการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน ฉะนั้นต้องให้กำลังใจข้าราชการฝ่ายประจำและนักการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน เพราะมันยากกว่าเดิม

เมื่อถามว่าจะให้ข้อคิด นายเศรษฐา อย่างไรบ้าง เพราะนายทักษิณ เคยแก้วิกฤตต้มยำกุ้ง อดีตนายกฯ ทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ท่านก็รู้เพราะเรื่องเดิมที่เราเคยแก้ไขมา บางอย่างก็ใช้ได้บางอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม