“วัชระ”ย้อน“เรืองไกร”มีเงินไม่แปลก ข้องใจต้นทางเงิน 25 ล้านมาจากไหน

09 ก.พ. 2567 | 08:23 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.พ. 2567 | 08:36 น.

“วัชระ เพชรทอง”ย้อน “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” มีเงินไม่แปลก แต่ต้นทางเงิน 25 ล้านมาจากไหน เป็น ส.ว.ได้แค่เดือนละแสน ชี้ช่อง ป.ป.ช.และปปง.ต้องสอบเส้นเงิน

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาขิกวุฒิสภา(ส.ว.) และกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่กล่าวว่ามีเงินแล้วแปลกตรงไหน กรณีรถเบนซ์ 2 คัน ภรรยาซื้อให้ และแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาทชื่อของ นายเรืองไกร เป็นของจริงนั้น

นายเรืองไกรแก้ตัวไปตามประสานักร้อง แต่ความจริงและเส้นทางการเงินมันลบล้างไม่ได้ กรณีรถเบนซ์ 2 คัน นายเรืองไกรมา แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่า ภรรยาซื้อให้ แต่ข่าวเว็บไซต์มติชนออนไลน์ วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 พาดหัวไว้ว่า “เรืองไกร” รับโดนผู้ใหญ่ใจดีเฉ่งปมรถหรู เผยได้คันนี้มาแทนหลังขอเงินแซยิด 30 ล้าน

นายเรืองไกร ยังให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ขยายเหตุถึงการโพสต์ภาพรถคันดังกล่าวว่า “จริงๆ เป็นเรื่องที่พูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้วจะ 60 ปี จะเกษียณจะครบรอบวันเกิดวันที่ 26 สิงหาคมนี้ อยากได้อะไร ผมก็บอกว่าจริงๆเงินซัก 20-30 ล้านบาทก็ยังโอเค  เขาบอกไม่ได้  เขาก็ถามว่า รถอยากได้ไหม  ผมก็บอกว่า โอเคพอไหวสุดท้ายก็ได้แค่รถ…”

                              “วัชระ”ย้อน“เรืองไกร”มีเงินไม่แปลก ข้องใจต้นทางเงิน 25 ล้านมาจากไหน

นายเรืองไกร ให้สัมภาษณ์คุยโวไว้ด้วยตนเองสามารถสืบค้นข้อมูลย้อนหลังได้ ต่อมามีการร้องเรียนจาก นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ที่ป.ป.ช. เมื่อ 2 ปีที่แล้ว นายเรืองไกรก็ลบเฟซบุ๊กของตนเองทิ้งทั้งหมด แล้วพลิกลิ้นแก้ตัวหน้าแห้งๆ ว่าภรรยาซื้อให้ทั้งสองคัน

“ถามว่ามีใครเชื่อคำพูดของนายเรืองไกรบ้าง ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงลบเฟซบุ๊กภาพรถเบนซ์ทั้งสองคัน ภาพแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาททิ้งทำไม ควรตั้งใจไปให้การกับ ป.ป.ช.จะดีกว่า และสิ่งที่ส่อพิรุธอีกประการหนึ่งคือ ป.ป.ช.ติดตามรถเบนซ์ของ นายเรืองไกร ว่าจดทะเบียนได้เพียงคันเดียว อีกคันหนึ่งติดตามไม่ได้ ถ้าป.ป.ช.ไม่มีอำนาจสอบสวนตามที่ นายเรืองไกร กล่าวอ้าง ป.ป.ช.จะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.สืบสวนเรื่องนี้ทำไมให้เสียเวลา

นายวัชระ กล่าวว่า นายเรืองไกร เป็นวุฒิสมาชิกปี 2551 รวมตลอดทั้งสมัยได้เงินเดือนรวมทั้งสิ้น 7,454,546.77 บาท เท่านั้นซื้อรถเบนซ์ที่นายเรืองไกรว่าได้แค่คันเดียวเอง

                           “วัชระ”ย้อน“เรืองไกร”มีเงินไม่แปลก ข้องใจต้นทางเงิน 25 ล้านมาจากไหน

“คนเป็นอดีต ส.ว. แล้วได้รับแคชเชียร์เช็ค 25 ล้าน หลังจากการเป็นกรรมาธิการโอนจ่ายงบประมาณ และได้รับรถเบนซ์ 2 คันซ้อนๆ ในขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามกฎหมายป.ป.ช. แล้วเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยและเข้าข่ายตามความผิดมูลฐานของ ปปง. ก็มีเขตอำนาจที่จะสืบสวนเส้นทางการเงินของนายเรืองไกร เนื่องจากเป็นกรรมาธิการเพราะถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ”

ดังนั้น จึงต้องรอผลการปฏิบัติหน้าที่ของ ปปง. และ ป.ป.ช. นายเรืองไกรควรให้ความร่วมมือในการสอบสวน อย่าโกหกไปมาเหมือนที่กล่าวอ้างว่าผู้ใหญ่ใจดีให้มา พอมีการร้อง ป.ป.ช.ก็อ้างว่า ภรรยาซื้อให้ มันน่าขำจริงๆ

“เรื่องนี้ถ้า นายเรืองไกร ไม่ได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งต้องพิจารณารายจ่ายเงินกว่า 3 ล้านๆ บาททุกปี คงไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีใครไปยุ่งกับการอวดได้อวดมีรถเบนซ์ หรือ เงิน 25 ล้าน ของนายเรืองไกร เมื่อเข้าไปมีอำนาจพิจารณาเงินภาษีอากรของประชาชนทุกคน ก็ต้องมีการตรวจสอบ นายเรืองไก รย้อนกลับเป็นธรรมดา และต้องสอบว่าต้นทางเงิน 25 ล้านบาท มันมาจากหนใด ลำพังเงินเดือนวุฒิสมาชิก มันจะร่ำรวยมากถึงขนาดนี้หรือ เป็นเรื่องที่ประชาชนเขาสงสัยกันทั้งประเทศ” นายวัชระ กล่าว