"เรืองไกร"ประเดิมยื่นกกต.ส่งศาลรธน.ยุบพรรคก้าวไกล

01 ก.พ. 2567 | 05:14 น.

"เรืองไกร"ประเดิมยื่นกกต.ส่งศาลรธน.สั่งยุบพรรคก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง ฟันธงตายหมู่ ด้าน"แบม-ตะวัน"โผล่ทำกิจกรรมประชด

วันนี้ (1 ก.พ. 66 ) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครองจากการเสนอแก้ไขและมีนโยบายหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  

นายเรืองไกร กล่าวว่า ที่มาวันนี้เนื่องจากเมื่อวาน (31 ม.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยระบุชัดเจนว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิเพื่อล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 49 และสั่งให้เลิกการกระทำ ซึ่งตนเข้าใจว่าห้ามยกเลิกมาตรา 112 และการจะตรากฎหมายใหม่แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิก สามารถทำได้แต่ต้องชอบด้วย

จึงนำผลคำวินิจฉัยมายื่นต่อ กกต. เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (1) (2) 

อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยในคดีดังกล่าว จะผูกพันถึง กกต. ที่ต้องทำตามหน้าที่ เพราะถือเป็นความปรากฏ ส่วนองค์กรที่ 2 คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกร้องเป็น ส.ส 44 คน  ว่าใช้สิทธิและเสรีภาพ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้เคยยื่นเรื่องไปแล้วเมื่อปี 2564

"นี่เป็นการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน ไม่ได้มีความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ หรือนำความเห็นส่วนตัวมาร้องแต่อย่างใด" 

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่น กกต.ให้เสนศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยนี้จะส่งผลต่อพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เคยใช้การแก้ไขมาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง หากมีน้ำหนักพอก็จะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ รวมถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพรทองธาร   ชินวัตร ที่เคยหาเสียงในประเด็นแก้ไขมาตรา 112 

เมื่อถามอีกว่ามั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบใช่หรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่น่าจะรอด เพราะศาลวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งก็จะส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ นายเรืองไกร กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น   น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) กลุ่มทะลุวัง และ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม)  ปรากฏตัวโดยมีเชือกพันธนาการที่ข้อมือ และลำคอ ของทั้งสองคน  เดินทางเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์  

โดยกล่าวว่า ต้องการมาตามหาศาลไคฟง เพื่อให้มาประหารพวกตนทั้งสองคน เพราะเมื่อวานมีศาลกล่าวอ้างถึงชื่อของพวกตน รวมถึงกิจกรรมก่อนหน้านี้ที่ตนได้ดำเนินการ


นอกจากนี้ยังพบว่า มีกลุ่ม ศปปส. ที่จะเดินทางมาติดตามการยื่นคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่จะเดินทางมายื่นให้ กกต.พิจารณายุบพรรคก้าวไกลเช่นกัน 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อป้องกันความวุ่นวายทางศูนย์ราชการ  ได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ในและนอกเครื่องแบบมาคอยดูแลความปลอดภัย