รายงานพิเศษ : วิบากกรรม“ก้าวไกล”ส่อตายหมู่

03 ก.พ. 2567 | 02:00 น.

พิษแก้ ม.112 ที่ศาลรธน.ชี้ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ทำให้ “ก้าวไกล” เผชิญกับการ “ยุบพรรค” ตัดสิทธิกก.บห. 26 คน เว้นวรรคการเมือง 10 ปี ขณะที่ 44 ส.ส. ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรง เว้นวรรคการเมืองตลอดชีวิต : รายงานพิเศษ โดย...ทีมข่าวการเมือง ฐานเศรษฐกิจ

ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีเอกฉันท์ 9 เสียง  เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 ชี้ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ในขณะนั้น) และ พรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ..เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง พร้อมสั่งให้สั่งเลิกการกระทำ

ได้ก่อให้เกิดผลกระทบที่จะตามมากับอนาคตทางการเมืองของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รวมถึงบรรดา ส.ส.ก้าวไกล 44 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112  

พาเหรดยื่นกกต.ยุบก้าวไกล

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ขอให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองก.ก.บห.พรรค จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า นายพิธา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครองฯ  

นายเรืองไกร กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยระบุชัดเจนว่า นายพิธา และ พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิเพื่อล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 จึงนำผลคำวินิจฉัยมายื่นต่อ กกต. เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2) 

“คำวินิจฉัยในคดีดังกล่าว จะผูกพันถึง กกต. ที่ต้องทำตามหน้าที่ เพราะถือเป็นความปรากฏ” 

ส่วนองค์กรที่ 2 คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกร้องเป็น ส.ส 44 คน ว่าใช้สิทธิและเสรีภาพ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้เคยยื่นเรื่องไปแล้ว เมื่อปี 2564

“ไม่น่าจะรอด เพราะศาลวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งก็จะส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีด้วย” นายเรืองไกล กล่าวถึงความมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่  

                       รายงานพิเศษ : วิบากกรรม“ก้าวไกล”ส่อตายหมู่

วันเดียวกัน นายธีรยุทธ สุววรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัย กรณี นายพิธา และ พรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครองฯ ก็ได้เข้ายื่นคำร้องต่อกกต. ขอให้ส่งเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

นายธีรยุทธ กล่าวว่า นอกจากคำวินิจฉัยของศาลนี้ มีผลผูกพันกกต.ด้วยแล้ว น่าจะเป็นเรื่องผูกพันที่ตนให้ต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามสิทธิที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญ จึงได้ทำคำร้องพร้อมเอกสารกว่า 100 หน้านำมายื่นต่อกกต. เพื่อดำเนินการกับพรรคก้าวไกลให้เป็นไปตามคำวินิจฉัย 

และให้เป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2562 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า เมื่อกกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการ (1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.ที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำวินิจฉัย

เปิดโฉม 26 กก.บห.ชุดพิธา

ทั้งนี้ในกรณีที่ “พรรคก้าวไกล” ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค จะส่งผลให้ ก.ก.บห. จำนวน 26 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ประกอบด้วย

1.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ในขณะนั้น รองหัวหน้าพรรค 4 คน คือ2.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท 3.พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 4.ณัฐวุฒิ บัวประทุม 5.ศิริกัญญา ตันสกุล 

เลขาและรองเลขาธิการพรรค 11 คน 6.ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค 7.ญาณธิชา บัวเผื่อน 8.เอกภพ เพียรพิเศษ 9.วรรณวลี ตะล่อมสิน 10.ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

11.ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 12.สุรเชษฐ์ ประวีณวงษ์วุฒิ 13.วรรณวิภา ไม้สน 14.จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ 15.คำพอง เทพาคำ 16.รังสิมันต์ โรม 17.ธีรเศรษฐ พัฒน์วราพงษ์
18.ณธีภัสร์กุล เศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค 19.ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตรตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค 20.ปดิพัทธ์ สันติภาดา

21.สมชาย ฝั่งชลจิตร 22.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 23.เบญจา แสงจันทร์ 24.อภิชาติ ศิริสุนทร 25.นายสุเทพ อู่อ้น และ 26.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค

                         รายงานพิเศษ : วิบากกรรม“ก้าวไกล”ส่อตายหมู่

 

นอกจากจะเจอกับการเสนอให้ “ยุบพรรค” แล้ว บรรดา ส.ส.ก้าวไกล 44 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไข มาตรา 112 ยังถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิด "จริยธรรมร้ายแรง" เนื่องจากเห็นว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง 

หาก “ยุบพรรค” กรรมการบริหาร 26 คน จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ส่วนความผิดจริยธรรมร้ายแรง รุนแรงถึงขั้นตัดสิทธิห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง “ตลอดชีวิต”

กรรมที่เกิดจากการเสนอแก้ ม.112 กำลังกลายเป็น “วิบากกรรม” ที่พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญทั้งเรื่อง ยุบพรรค และ จริยธรรมร้ายแรง จะเรียกว่าส่อ “ตายหมู่” ก็ว่าได้...  


+++

ยื่นฟันจริยธรรม 44 ส.ส.ก้าวไกล

นายธีรยุทธ สุววรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และ พรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครอง ได้เข้ายื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2567

เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง ส.ส.พรรคก้าวไกล 44  คน ที่ร่วมเสนอชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากเห็นว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เชื่อว่าจะเหมือนกับกรณีของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน 

ขณะที่ นายสนธิญา สวัสดี ก็เป็นอีกคนที่ได้เข้ายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้สอบจริยธรรม ส.ส.ก้าวไกล 44 คน เช่นกัน โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองที่มีส่วนร่วมเหล่านี้ทั้งหมด ต้องยุติการทำงานการเมืองไปตลอดชีวิต 

สำหรับโทษตามมาตรฐานทางความผิดจริยธรรมร้ายแรง คือ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี และ ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตลอดชีวิต

โดย 44 ส.ส.ก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ มาตรา 112 เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564 ประกอบด้วย

1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 2.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4.น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี 5.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ

6.นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 7.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8.พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 9.นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.

11.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 12.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 13.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก 14.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ

15.นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 16.นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ 18. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. 19.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20.น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม

21.นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 22.นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 23.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. 24.นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร 25.นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา

26.นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี 27.นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 28.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 29.นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 30.นายองค์การ ชัยบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

31.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 32.นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 33.นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด 34.นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 35.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ

36.น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 37.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 38.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 39.นายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 40.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

41.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 42.นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ 43.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ 44.นายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ