"สุทิน" เล็งทาบ "วิโรจน์-โรม" นั่งคณะกรรมการศึกษาเรือดำน้ำ

23 ม.ค. 2567 | 03:16 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ม.ค. 2567 | 03:46 น.

"สุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม เตรียมตั้งคณะกรรมการศึกษาซื้อเรือดำน้ำ เล็งทาบ "วิโรจน์-โรม" ก้าวไกลเข้าร่วมวง คาดไม่เกิน 2 เดือนสรุปแนวทางชัดเจน เสนอครม.

วันนี้ (23 มกราคม 2567) ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยการตั้งคณะกรรมการศึกษาเรื่องการซื้อเรือดำน้ำ ว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ จะทำหน้าที่ในการศึกษาหาทางเลือกที่ดีที่สุด โดยมี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษารมว.กลาโหม เป็นประธาน

ส่วนกรรมการประกอบไปด้วย ผู้บัญชาการกองทัพเรือ ฝ่ายกระทรวงคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นักวิชาการจากสถาบันป้องกันประเทศ (วปอ.) อัยการสูงสุด กระทรวงการคลัง รวมถึงนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้ที่เคยอภิปรายในสภาฯเกี่ยวกับเรือดำน้ำ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ

ขณะที่ตัวแทนจากฝ่ายค้าน เบื้องต้นเตรียมจะเชิญนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หรือนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เพื่อเข้าช่วยกันพิจารณาอย่างรอบคอบ และเมื่อถามว่าฝ่ายค้านนอกจากก้าวไกลจะมีพรรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ให้เสนอชื่อมา ถ้าส่งมาเพิ่มก็รอฟัง แต่ตนคิดว่า พรรคก้าวไกลก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะคนที่เขาสนใจในเรื่องนี้ก็อยู่ที่พรรคก้าวไกล 

ส่วนจะจำกัดหรือไม่โควต้าฝ่ายค้านไม่เกินกี่คน ยืนยันว่า ไม่จำกัด แต่โดยรวมคณะกรรมการจะต้องมี 13-15 คน ซึ่งตอนนี้นายยุทธพงษ์ ตอบรับแล้ว อยู่ระหว่างรอประสานนายวิโรจน์ และเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา ส่วนนายรังสิมันต์ก็เคยทาบทามไว้ เขาก็บอกว่าพร้อม

"หลังจากที่อัยการสูงสุดได้ตอบกลับมา เราก็พอจะเห็นแนวทางแล้ว เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ที่สุด ทั้งกับกองทัพและประเทศ รวมถึงประชาชน ตนคิดว่ามีหลายคนมาช่วยกันคิดจะดีที่สุด จึงจะต้องคณะกรรมการขึ้นมา มีหน้าที่ศึกษาหาทางเลือก ที่ดีที่สุด ซึ่งจะมาจากหลายฝ่าย มีทั้งผู้บัญชาการกองทัพเรือ ฝ่ายกระทรวงคณะทำงานของตน"

ผู้สื่อข่าวถามว่าอัยการสูงสุดตอบกลับมาว่าอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า สามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่ต้องผ่าน มติ ครม. จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ต้องจบที่มติครม. จะเป็นทางเดิมที่จะเอาเรือดำน้ำจีนก็ได้ หรือจะเอาเรือยี่ห้ออื่น หรือข้ามไปเป็นฟริเกตก็ได้ โดยมีกรอบระยะเวลา 30 วัน 

"ถ้าคณะกรรมการศึกษาเสร็จภายใน 1 เดือน จากขั้นตอนที่กระทรวงกลาโหมพิจารณา จนถึงมติครม. คิดว่าไม่นาน 2 เดือนหลังจากนี้ก็น่าจะเห็นแนวทางที่ชัดเจน"