จับตา DSI ประสาน "เฮียเก้า" มอบตัวสู้คดีตีนไก่เถื่อน บ่ายนี้
จับตา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสาน นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ "เฮียเก้า" เข้ามอบตัวในคดีตีนไก่สวมสิทธิ์ หรือ ตีนไก่เถื่อนช่วงบ่ายวันนี้ 22 ม.ค. 67
พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ตม.2) และโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เปิดเผยกรณี นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับคดีตีนไก่เถื่อน หรือ คดีตีนไก่สวมสิทธิ์ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่มีการประสานจะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า เบื้องต้นมีฐานข้อมูลของเฮียเก้าตามหมายจับอยู่ในระบบแล้ว ซึ่งหากมีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรก็จะมีการจับกุมตามกฎหมาย
พล.ต.ต.เชิงรณ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้รับการประสานจากดีเอสไอ แล้ว ส่วนในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ จึงขอยังไม่ให้ข้อมูล รอให้เดินทางเข้ามาถึงในราชอาณาจักรก่อน เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการชี้เป้าหรือเตือน
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ม.ค.67 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมและ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า ดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาใน “คดีหมูเถื่อน” อีก 4 คน โดยหนึ่งในนั้น คือ เฮียเก้า
สำหรับออกหมายจับ 4 หมายรวม 4 คน ประกอบด้วย
1.นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” 2. นายหยาง ยา ซุง 3. นายกรินทร์ บุตรชายของนายหลี่ 4. น.ส.นวพร เชาว์วัย ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่
โดยออกหมายจับ 4 หมายรวม 4 คน มีด้วยกัน 4 ข้อหา คือ
1.หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243
2.หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244
3.นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย อันเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ประกอบมาตรา 68 และมาตรา 83 ตามประมวลกฎหมายอาญา
4.มาตรา 209 ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน