รัฐบาล ย้ำ เมียนมาเข้ม ห้ามชาวต่างชาติบินไปเมือง "ล่าเซี่ยว-ท่าขี้เหล็ก"  

27 พ.ย. 2566 | 09:30 น.

โฆษกรัฐบาล ย้ำเตือนคนไทย เมียนมาห้ามคนต่างชาติบินไปยังเมืองล่าเซี่ยวและท่าขี้เหล็ก ฝ่าฝืนจะได้รับโทษ แนะเลี่ยงเดินทางเข้าพื้นที่ พร้อมเปิด 3 ช่องทางแจ้งลงทะเบียนการพำนักในเมียนมากับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง

หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในเมียนมาซึ่งส่งผลให้ทางการเมียนมาประกาศกฎอัยการศึกในบางพื้นที่นั้น ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (27 พฤศจิกายน 2566) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งได้แจ้งข้อแนะนำในการเดินทางสำหรับคนไทยที่อาศัยหรือท่องเที่ยวในเมียนมา 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เน้นย้ำถึงประกาศห้ามคนต่างชาติซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังเมืองล่าเซี่ยวและท่าขี้เหล็ก เมียนมา ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 โดยผู้ฝ่าฝืนจะได้รับโทษจำคุกหรือ/และปรับ ตามดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เมียนมา ที่ผ่านมาพบว่ามีคนต่างชาติได้ทำการฝ่าฝืนเพื่อซื้อตั๋วในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวและได้รับพิจารณาโทษแล้ว

นอกจากนี้ยังได้แนะนำให้คนไทยเลี่ยงการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่ทางการเมียนมาประกาศกฎอัยการศึก โดยเฉพาะรัฐฉาน สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ในเมียนมา เช่น กรุงย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ เมืองพุกาม เป็นต้น โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ผู้เดินทางติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ก่อนออกเดินทาง

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอความร่วมมือให้คนไทยที่พำนักหรือเดินทางท่องเที่ยวในเมียนมา ลงทะเบียนการพำนักในเมียนมากับสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อติดต่อและรับข้อมูลในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 

1.เบอร์ฉุกเฉิน สอท. ณ กรุงย่างกุ้ง +95 988 0916795 

2.Official Thai Consular ID Line: @395cxuuo

3.ลิงก์
แบบฟอร์มแจ้งข้อมูลคนไทยในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง

"รัฐบาลขอให้คนไทยที่พำนักหรือเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในเมียนมาทุกท่านปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย และขอให้ทุกท่านแจ้งข้อมูลการพำนักหรือเดินทางท่องเที่ยวในเมียนมาให้กับสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อที่ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อและส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ท่านได้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน" นายชัย โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว