"ชัยธวัช"เดินหน้าสอบผู้ช่วยสส. เรียกรับผลประโยชน์ โรงงานกำจัดขยะ

07 พ.ย. 2566 | 05:32 น.

“ชัยธวัช” ยันไม่นิ่งนอนใจ เดินหน้าตรวจสอบข้อกล่าวหาผู้ช่วยสส.พรรคเรียกรับผลประโยชน์ โรงงานกำจัดขยะปราจีนฯ ชี้เป็นคนละประเด็นกรณีคุกคามทางเพศ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา อดีต สส.ปราจีนบุรี ของพรรค ให้ข้อมูลระบุว่าการที่ถูกขับออกจากพรรคเป็นเพราะมีผู้ช่วย สส. ที่ทำงานใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรค เรียกรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะใน จ.ปราจีนบุรี

นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวกระทบสร้างความเสียหายต่อพรรค จึงขอชี้แจงเป็น 4 ประเด็นดังนี้

 

หนึ่ง ทางผู้บริหารพรรคได้รับทราบข้อมูลที่วุฒิพงศ์ร้องเรียน ในระหว่างที่วุฒิพงศ์แก้ข้อกล่าวหากรณีคุกคามทางเพศ โดยนายวุฒิพงศ์พยายามนำเรื่องนี้มาโต้แย้งว่าข้อร้องเรียนกรณีคุกคามทางเพศ มีแรงจูงใจจากผลประโยชน์ทางการเมือง 

จึงยืนยันว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อผู้บริหารของพรรคทราบเรื่อง ได้แจ้งกับกรรมการวินัยของพรรคว่าเรื่องนี้ต้องพิจารณาแยกจากกันเพราะเราเห็นว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ ต่อให้ข้อกล่าวหาเรื่องเจ้าหน้าที่ของพรรครับผลประโยชน์ เป็นแรงจูงใจให้ร้องเรียนวุฒิพงศ์ เป็นความจริง ก็ไม่ได้ทำให้ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศหายไป

สอง ตนและผู้บริหารพรรคได้แจ้งกับคณะกรรมการวินัยหลายสัปดาห์แล้วว่า เมื่อพิจารณาเรื่องคุกคามทางเพศเสร็จ ต้องดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องเจ้าหน้าที่ของพรรครับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะต่อทันที ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างดำเนินการ

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

สาม ต้องยืนยันว่าการที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ช่วย สส. ของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคือนางสาวเบญจา แสงจันทร์ ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาข้อกล่าวหากรณีคุกคามทางเพศ เนื่องจากเบญจาไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการ ไม่ได้เป็นกรรมการวินัย และเมื่อผลการพิจารณาของคณะกรรมการวินัยส่งมาถึงคณะกรรมการบริหารพรรค เบญจาก็ของดออกเสียง เพราะทราบแล้วว่าถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องนี้ ในขณะที่กรรมการบริหารพรรคคนอื่นมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่าวุฒิพงศ์มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงที่วุฒิพงศ์นำมากล่าวหา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเบญจาเลย ถ้ามี พรรคพร้อมรับข้อมูลเพิ่มเติมแน่นอน

สี่ การแต่งตั้งบุคคลที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว เป็นผู้ช่วย สส. ของนางสาวเบญจา ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคลระหว่างนางสาวเบญจาและบุคคลที่ถูกกล่าวหา แต่เบญจาแต่งตั้งเพราะพรรคนำเสนอรายชื่อให้แต่งตั้ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นคณะทำงานใน จ.ปราจีนบุรี ที่ทำงานกับพรรคอย่างแข็งขันตั้งแต่ต้น จึงนำเสนอให้ สส. จำนวนหนึ่ง แต่งตั้งคนทำงานในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวน เบญจาได้นำรายชื่อของบุคคลที่ถูกกล่าวหาออกจากการเป็นผู้ช่วย สส. แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ ในการพิจารณา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร จะตรวจสอบเรื่องนี้ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนยินดี เพราะเครือข่ายผลประโยชน์ที่หากินกับบ่อขยะหรือขยะอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองบ้านใหญ่เต็มไปหมด จึงยินดีหาก กมธ.อุตสาหกรรมฯ จะช่วยสอบสวน

ส่วนการทำงานพื้นที่ใน จ.ปราจีนบุรี เขต 2 เนื่องจากยังมีพี่น้องประชาชนที่ต้องการทำงานกับพรรคต่อไป เมื่อไม่มี สส.เขตของก้าวไกลแล้ว จึงมอบหมายให้ อภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการของพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการที่ดินฯ รับผิดชอบประเด็นที่ยังต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน บ่อขยะ และมลพิษต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ 

นายชัยธวัชกล่าวว่า ทุกองค์กรเมื่อมีสังคมช่วยตรวจสอบ จะทำให้องค์กรนั้นโปร่งใสขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี หากเมื่อไรสังคมเลิกตรวจสอบพรรคก้าวไกล แสดงว่าสังคมไม่ได้คาดหวังอะไรกับพรรคอีกแล้ว