วันที่ 29 กันยายน 2566 ศาลอาญาได้ออกเอกสารข่าวชี้เเจง กรณีตามที่ปรากฏข่าวจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนหลายสำนัก เป็นที่แพร่หลายจนทราบกันทั่วไปในขณะนี้ว่า เจ้าพนักงานตำรวจได้นำหมายค้น ซึ่งออกโดยศาลอาญาไปตรวจค้นบ้านพักอาศัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ต่อมามีบุคคลอ้างว่าเป็นข้าราชการตำรวจตำแหน่งระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ข่าวว่าเป็นบ้านพักอาศัยของตน เจ้าพนักงานตำรวจผู้ร้องขอให้ออกหมายค้นหลอกลวง ศาลด้วยการปิดบังข้อเท็จจริงไม่ให้ข้อมูลต่อศาลว่าบ้านหลังที่ขอให้ออกหมายค้นเป็นบ้านพักของข้าราชการตำรวจตำแหน่งระดับสูง ในลักษณะว่าเป็นเหตุให้ศาลออกหมายค้นไปโดยผิดหลังนั้น
ศาลอาญาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ศาลอาญาออกหมายค้นไปโดยชอบ ตามพยานหลักฐานที่ผู้ร้องขอให้ออกหมายค้นนำเสนอ ซึ่งกรณีหากมีเหตุที่จะออกหมายค้นที่รโหฐานใด ๆ ตามกฎหมายเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่สามารถร้องขอให้ศาลออกหมายค้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าที่รโหฐานนั้นจะมีข้าราชการตำแหน่งระดับสูง หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง หรือบุคคลสำคัญคนใด เป็นเจ้าของหรือครอบครองอาศัย อยู่หรือไม่
แต่ในการยื่นคำร้องขอให้ออกหมายค้นหรือในการนำเสนอพยานหลักฐานต่อศาล ผู้ร้องมีหน้าที่ต้องเบิกความหรือให้การต่อศาลตามความเป็นจริงโดยไม่ปิดบังข้อมูลว่า บ้านหลังที่ขอค้นมีบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งข้าราชการระดังสูง หรือผู้มีตำแหน่งระดับสูง หรือบุคคลซึ่งสังคมให้ความสำคัญโดยฐานะหรือโดยสถานภาพทางหน้าที่การงาน ครอบครองเป็นเจ้าของหรือพักอาศัยอยู่หรือไม่
เพื่อศาลจะได้ใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคำร้องขอให้ออกหมายค้นอย่างรอบคอบว่ามีเหตุที่จะออกหมายค้นตามกฎหมายจริงตามที่เจ้าพนักงานผู้ร้องขอให้ออหมายค้นกล่าวอ้างหรือไม่ซึ่งเป็นไปตามหลักการในการรับฟังพยานหลักฐาน
มิเช่นนั้นแล้วหากได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนย่อมมีความเสี่ยงที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการครอบครองอยู่อาศัยในเคหสถานของบุคคลโดยปกติสุข ตามที่มีการรับรองไว้ในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ศาลอาญาจึงอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบต่อไปว่า มีกรณีที่เจ้าพนักงานผู้ร้องขอให้ออกหมายค้นหรือผู้ที่ให้การเป็นพยานในชั้นขอให้ศาลออกหมายค้นเจตนา ปิดบังข้อเท็จจริงต่อศาลในการนำเสนอพยานหลักฐานตามที่มีการเสนอข่าวหรือไม่
ทั้งนี้เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงโดยชัดเจนเพื่อความโปร่งใสและเพื่อให้ผู้ร้องขอให้ออกหมายค้นพึงระมัดระวังมาตรฐานในการ นำเสนอพยานหลักฐานของตนต่อศาล และเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป