"ชวน" เปิดแผลเก่า "ไทยรักไทย-เพื่อไทย" ในอดีต

12 ก.ย. 2566 | 11:35 น.

"ชวน" เปิดแผลเก่า "ไทยรักไทย-เพื่อไทย" ในอดีต แนะ "เศรษฐา" นายกรัฐมนตรี รักษาหลักนิติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ-ซื่อสัตย์ห่างคุก กรีดลูกพรรคฯ หาเสียงห้ามประชาชนเลือกเพื่อไทยแต่ยกมือสนับสนุนเท่ากับ "หักหลัง-ทรยศประชาชน"

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย อย่าเลือกปฏิบัติกับคนใต้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา พร้อมกล่าวถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมว่า จะเกิดได้ เมื่อประชาชนได้รับการปฏิบัติโดยเสมอกัน

จึงขอให้รัฐบาลรักษาหลักนิติธรรม และมีธรรมาภิบาล ไม่เลือกปฏิบัติ อย่าละเลยจนซ้ำรอยเหตุการณ์ในอดีต และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จากจุดเริ่มต้น การละเมิดหลักนิติธรรม เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้จากการจัดการผู้ร้าย เมื่อ 8 เมษายน 2544 จนเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เกิดการปล้นอาวุธสงครามจากค่ายทหาร

จากการใช้นโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลในขณะนั้น พร้อมของให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเมื่อปฏิบัติหน้าที่ครบ 4 ปีหรือไม่ครบก็ตาม เพื่อให้มีความปลอดภัย ไม่ต้องถูกจำคุก ไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโคตรโกง หรือ โกงทั้งโคตร 

นายชวน ยังยอมรับด้วยว่า ไม่ได้รู้จักนายเศรษฐา เป็นการส่วนตัว ซึ่งในระหว่างการอภิปรายของนายชวนนั้น ได้มีการกล่าวถึงชื่อ "นายเศรษฐา" เป็น "นายเชษฐา" และรู้จักเพิ่งนายเศรษฐา เมื่อเดินไปพบ สส.ภายในห้องอาหารรัฐสภา และรู้จักผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์คนอื่น ที่ร่ำรวย เพราะทราบว่า ประสบความสำเร็จร่ำรวย เพราะมาฟังตนเองปราศรัยขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ให้สร้างบ้านเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย และเชื่อว่า จากการที่นายเศรษฐาถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นตั้งแต่สมัยเรียนต่างประเทศ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อนายเศรษฐา ที่จะสามารถยืนยันความโปร่งใสได้  

นายชวน ยังระบุว่า ผลจากการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้พรรคไทยรักไทย ได้รับเลือกตั้งน้อยมากในพื้นที่ภาคใต้ และพรรคเพื่อไทย ไม่มี สส.แม้แต่คนเดียวในพื้นที่ภาคใต้ เพราะประชาชน เชื่อในพรรคประธิปัตย์ และขอร้องประชาชนอย่าเลือกพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อขอร้องประชาชนแล้ว สส.พรรคประชาธิปัตย์ มายกมือสนับสนุนให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เท่ากับเป็นการหักหลังประชาชน ทรยศประชาชน ตนเองจึงได้ขออนุญาตที่ประชุมพรรค ไม่รับรองนายกรัฐมนตรีคนนี้ด้วยการงดออกเสียง