“สามารถ”ฉะ“หมออ๋อง”จี้ขอโทษประชาชน อย่าทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย

15 ส.ค. 2566 | 06:40 น.

“สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ฟาด “หมออ๋อง” ต้องขอโทษประชาชน ปมโพสต์เชียร์เบียร์ อย่าสร้าง “ระบบพิธา” ให้กับสังคมที่ชอบทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย จี้ลาออกจากรองประธานสภาฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

วันนี้(15 ส.ค.66) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความเห็น ผ่านเฟซบุ๊กกส่วนตัวกรณี นายสัตวแพทย์ ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ “หมออ๋อง” ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ได้โพสต์รูปตัวเองพร้อมกระป๋องเบียร์ ว่า

“ผมคิดว่า การที่หมออ๋อง  ได้กระทำตัวผิดกฏหมาย ทั้งที่ตัวหมออ๋อง ได้รับการอวยยศ ให้เป็นถึง รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 คือ รองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ผู้ออกกฎหมาย แต่มาทำผิดกฏหมายเสียเอง 

ใน มาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 บัญญัติ "ห้าม มิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ แสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อัน เป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรง หรือ โดยอ้อม 

ดังนั้น การที่ นายปดิพัทธ์ ซึ่งเป็นถึงรองประมุขฝ่ายออกกฎหมาย มาบังคับใช้ในสังคม ต้องรักษากฎหมายยิ่งกว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนทั่วไป  แต่มาถึงเวลานี้ ผม และ พ่อแม่พี่น้องประชาชน ยังไม่เห็นกระบวนการขอโทษ หรือ ลงโทษจากพรรคก้าวไกลเลย

ผมจึงฝากเตือนว่า อย่าสร้างระบบพิธา ขึ้นมาในสังคม คือ ด่าทอ ตรวจสอบทุกคน ทัวร์ลงทุกคนที่ทำผิด แต่ยกเว้นพวกตนเอง นิ่งเฉย ไม่ตรวจสอบ ไม่ยึดถือมาตรฐาน คุณธรรม จริยธรรม 

หมออ๋อง ต้องลาออกจากรองประธานสภาฯ  เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ที่มีคนออกมาเรียกร้องให้ ประธานสภาฯ ปลด รองประธานสภา นั้นทำไม่ได้ แปลว่า ผู้ออกมาพูดไม่รู้กฎหมาย  

ในรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ในมาตรา 118 ว่า ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานและรองประธานวุฒิสภา ย่อมพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระตามมาตรา 117 เมื่อ

(1) ขาดจากสมาชิกภาพแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก

(2) ลาออกจากตําแหน่ง

(3) ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีหรือข้าราชการการเมืองอื่น

 (4) ต้องคําพิพากษาให้จําคุกแม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษเว้นแต่เป็นกรณีที่คดียังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทความผิดลหุโทษหรือความผิดฐานหมิ่นประมาท 

ดังนั้น คนที่ออกมาแสดงความเห็นให้ อ.วันนอร์ ปลดหมออ๋อง จากรองประธานสภาฯ นั้น ทำไม่ได้  เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ 
ผมจึงต้องออกมาบอก FC  ให้ช่วยกันทำลาย “ระบบพิธา” อย่าให้เกิดขึ้นในสังคมไทย 

และเรียกร้องให้ หมออ๋อง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ได้ลาออก เพื่อแสดงสปิริต ทางการเมือง เพราะอย่างไร นายปดิพัทธ์ ต้องลาออกอยู่แล้ว  เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติในมาตรา 106 ว่า ภายหลังที่คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด และสมาชิกมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 

ในกรณีที่พรรคการเมืองตามวรรคหนึ่ง มีสมาชิกเท่ากัน ให้ใช้วิธีจับสลาก ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรย่อมพ้นจากตำแหน่ง เมื่อขาดคุณสมบัติตามวรรคหนึ่ง หรือ เมื่อมีเหตุตามมาตรา 118 (1) (2) (3) หรือ (4) ในกรณีเช่นนี้ พระมหากษัตริย์จะได้ทรงแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง 

ดังนั้นถึงอย่างไร ผมเชื่อว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา  ต้องลาออกจากรองประธานสภาฯ อย่างแน่นอน  เพราะถ้าไม่ยอมลาออก ก็น่าจะพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค ก็เข้าแผนกระเบื้องล่อหยก ของพรรคก้าวไกลอีกเช่นเคย  

ผมจึงมาบอกทุกคนให้ช่วยกัน สร้างระบบที่ดีให้กับชาติบ้านเมือง”