นายกฯ ย้ำ กลางสภา คนทำผิดต้องถูกลงโทษตามก.ม. ไม่มียกเว้น

16 กุมภาพันธ์ 2566 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันที่สองซึ่งเป็นวันสุดท้ายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านอีกครั้งโดยได้ขอบคุณข้อมูลที่มีทั้งเป็นและไม่เป็นประโยชน์จากฝ่ายค้านที่จะเอาไปปรับปรุงการทำงาน

คนไม่ดีต้องถูกลงโทษตามกฎหมายเพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกัน ไม่ขัดแย้งเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ถูกยุแยงตะแคงรั่ว ทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน ใครทำผิดต้องถูกลงโทษ ไม่มียกเว้น

การบอกว่าตนไม่ถูกตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า ถูกตรวจสอบมาตลอด โดนฟ้องเป็นร้อยคดี เรื่องบัญชีทรัพย์สินก็ยื่นต่อป.ป.ช.ไปแล้ว แต่ ป.ป.ช.ไม่เปิดเผยเอง 

ส่วนการปฏิรูปประเทศต้องอาศัยเวลาและความร่วมมือ ขอให้ทุกคนอดทน ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เรื่องที่กล่าวหามาจะตรวจสอบให้ทุกเรื่อง ไม่มีข้อยกเว้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะที่การปฏิรูปกองทัพ ปรับลดกำลังพลกองทัพลงต่อเนื่องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ คนที่คัดค้านการซื้ออาวุธกล้าไปอยู่ชายแดนหรือขึ้นซี 130 ไหม การจัดซื้ออาวุธต้องมีการเตรียมพร้อมรบเอาไว้ที่กล่าวหาเรื่องทุจริต ก็ไปหาหลักฐานมาว่า โกงตรงไหน

กรณีเรือหลวงสุโขทัย ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบหลายคณะ ให้เร่งหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว กำลังพลที่เสียชีวิตก็ช่วยเหลือทุกอย่าง การปฏิรูปตำรวจได้ผลักดัน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ แบ่งสายงานชัดเจน จัดสรรงบเพียงพอ แต่งตั้งตามระบบอาวุโส สิ่งที่ตนได้ทำมาทำได้ดีกว่าแต่ก่อนหลายเรื่อง ใครจะมาเป็นนายกฯ ขอให้แก้ให้ดีกว่าที่ตนทำไว้

ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศการอภิปรายในช่วงเย็นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีบรรดารัฐมนตรีหลายคน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกอภิปรายพาดพิงสลับกับการอภิปรายของส.ส.ฝ่ายค้านที่ยังคงอภิปรายถึงความล้มเหลวการบริหารงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม