คดีอธิบดีกรมอุทยานฯ รีดส่วยถึงมือ ป.ป.ช. สัปดาห์หน้า 

18 ม.ค. 2566 | 11:00 น.

คืบ คดีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เรียกรับส่วย ผบก.ปปป. เผย เตรียมสรุปสำนวนพร้อมส่งให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้นสัปดาห์หน้า

18 มกราคม 2566 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการทำสำนวนคดี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเรียกรับผลประโยชน์การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัด

ล่าสุดพนักงานสอบสวนเตรียมส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทันกำหนดภายใน 30 วัน หลังจาก ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียน คือ วันที่ 26 มกราคม ซึ่งเมื่อแน่ชัดวันส่งสำนวนแล้วจะนัด นายรัชฎา ไปที่ ป.ป.ช.ต่อไป ส่วนการสอบปากคำ ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนั้น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่รวบรวมเงินจำนวน 98,000 บาท ให้กับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เพื่อนำเงินไปให้ในรัชฎา ซึ่งกลุ่มนี้มีพยาน 17 คน ประกอบด้วย เจ้าของเงิน 13 คน , คนรวบรวมเงิน 3 คน และนายชัยวัฒน์อีก 1 คน โดยทั้งหมดให้การสอดคล้องกัน

กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินวิ่งเต้นโยกย้ายก่อนหน้านี้ มี 5 คน

กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มหัวหน้างานที่มีรายชื่อและตำแหน่งปรากฏอยู่บนหน้าซองใส่เงิน ที่ตรวจค้นพบในห้องทำงานของนายรัชฎา มี 14 ซอง ที่สามารถยืนยันตัวบุคคลจากซองเงิน 21 ซอง แต่ใน 14 ซอง ที่สามารถระบุตัวตนได้นั้น มี 1 ซอง ที่ไม่มีเงินอยู่ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในจำนวนดังกล่าวมี 4 คน ให้การเป็นประโยชน์

ส่วนที่เหลืออ้างว่า เป็นเงินค่าสั่งทำพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 จำลอง เพื่อนำเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือข้าราชการในสังกัด, เงินที่ใช้ในกองทุนช่วยเหลือสัตว์ป่า และเป็นเงินที่ใช้ด้านอื่น

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ผบก.ปปป. ระบุมั่นใจว่า พยานหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถเอาผิดนายรัชฎาได้ แม้ว่าจะมีพยานหลายคนที่ปฏิเสธว่าไม่ได้จ่ายเงินวิ่งเต้นตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องถูก ป.ป.ช.ไต่สวนอยู่ดี ซึ่งเชื่อว่าเมื่อถึงกระบวนการนั้นจะมีพยานกลับคำให้การอีกหลายคน เพราะไม่มีใครอยากตกเป็นผู้ต้องหา หากให้การเท็จกับ ป.ป.ช.ก็จะมีความผิดไปด้วย