“หนี้”ไม่มีใครอยากเป็น ! “กรณ์”ผุดโครงการแก้หนี้ รื้อระบบการเงิน-บูโร

07 ม.ค. 2566 | 05:26 น.

“กรณ์” ผุดโครงการแก้หนี้ เตรียมชงนโยบาย "ชาติพัฒนากล้า" รื้อโครงการระบบการเงิน-บูโร ช่วยคนไทย ปูพรมขึ้นป้าย “ยกเลิกแบล็กลิสต์ รื้อระบบสินเชื่อ” ทั่วประเทศ ปลื้ม!เสียงตอบรับเป็นบวกจากคนทำมาค้าขาย- SME

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตระหนักดีว่าคำว่า “หนี้” ไม่มีใครอยากเป็น แต่เวลาเป็นแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลุดจากวงจรนี้ ซึ่งนอกจากนโยบายหาเงินให้คนไทยแล้ว

 

การแก้หนี้คือความเร่งรีบอันดับต้น ๆ ที่ตนต้องการแก้ และเคยทำมาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ปี 2552 แก้หนี้นอกระบบ 5 แสนราย ปี 2553 ปรับโครงสร้างหนี้กองทุนฟื้นฟู-เกษตรกร ปี 2554 ออกกฎหมาย 'กองทุนการออมแห่งชาติ' (กอช.) ปี 2559 ก่อตั้ง Refinn ช่วยคนไทยแก้หนี้ที่อยู่อาศัย ปี 2565 โครงการ 'กล้าปลดหนี้' ช่วยคนไทยเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และ ปี 2566 นโยบาย 'ยกเลิกแบล็กลิสต์' เสนอระบบ Credit Score

“หนี้”ไม่มีใครอยากเป็น ! “กรณ์”ผุดโครงการแก้หนี้  รื้อระบบการเงิน-บูโร

 

ส่วนกรณีที่มีบางคนระบุว่า คนที่เป็นหนี้คือคนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า อาจถูกส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป ในหลายๆ ครั้งเกิดจากวิกฤตที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น วิกฤตโควิด ที่ทำให้ผู้ประกอบการและ SME เป็นจำนวนมาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง และการกู้ยืมในระบบทำได้ยาก

 

ตนในฐานะนักการเงินไม่อยากให้เกิดที่สุด คือ การกู้หนี้นอกระบบ การช่วยเหลือและออกนโยบายต่างๆ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งนี้ เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่าดอกเบี้ยโหดมาก และยากที่จะคืนเงินต้นได้ การติดแบล็กลิสต์ก็เช่นกัน ต่อให้ใช้หนี้ครบแล้วยังขึ้นจากเหวนี้ไม่ง่าย ตนจึงเสนอนโยบายปลดแบล็กลิสต์ แล้วใช้ระบบ Credit Scoring แทน ใครเครดิตดีก็กู้ได้มาก เครดิตไม่ดีก็กู้ได้น้อย นี่ก็เป็นวินัยทางการกู้รูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้คนเป็นหนี้ขึ้นมาจากเหวได้ 

 

“เมื่อพวกเขาปลดหนี้ได้แล้ว ชีวิตจึงจะเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้เศรษฐกิจระดับประเทศมันหมุนต่อไป มารื้อโครงสร้างสินเชื่อ เพื่อชีวิตใหม่ที่เดินต่อไปข้างหน้าได้ ด้วยกันนะครับ” นายกรณ์ กล่าว

 

“หนี้”ไม่มีใครอยากเป็น ! “กรณ์”ผุดโครงการแก้หนี้  รื้อระบบการเงิน-บูโร

 

ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ออกป้ายชุดนโยบายเผยแพร่ทั่วพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และจะขยายไปยังทั่วประเทศ โดยชู “ยกเลิกแบล็กลิสต์ รื้อระบบสินเชื่อ” ซึ่งเบื้องต้นได้รับเสียงตอบรับเป็นบวกจากกลุ่มคนทำมาค้าขายและ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักตอนโควิด รวมถึงนักวิชาการในวงการธนาคารมีเสียงตอบรับในวงกว้างดีมาก