ระทึก! สัปดาห์หน้า ป.ป.ช.ชี้มูลคดีจีทูจีมันเส้น 3 สำนวน

09 ธ.ค. 2565 | 05:19 น.

ป.ป.ช.นัดชี้มูลคดีจีทูจีมันเส้น 3 สำนวนสัปดาห์หน้า “พรทิวา นาคาศัย-บุญทรง เตริยาภิรมย์-ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ส่วนจีทูจีข้าวภาคสอง รออีก 2 สัปดาห์ “วัชรพล”แจงเหตุล่าช้าเอกสารมีเป็นหมื่นหน้า ปัดจ้องฟันใกล้เลือกตั้ง ทำมานานแต่เสร็จพอดี

วันนี้(9 ธ.ค.65) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีซื้อขายมันเส้นแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 3 สำนวน ได้แก่ 

 

1.กรณีกล่าวหานางพรทิวา นาคาศัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก

 

 

 

2.กรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก

 

และ 3.กรณีกล่าวหานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กับพวก รวมถึงความคืบหน้ากรณีกล่าวหานายบุญทรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก ทุจริตในการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีว่า 


จากเดิมจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เมื่อสิ้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเอกสารคดีทุจริตจีทูจีข้าวมีจำนวนเป็นหมื่นหน้า และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องการสแกนเอกสารทุกหน้า จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ไปสแนกข้อมูลแล้วกลับนำเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง เพื่อที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะได้พิจารณาและให้ความเป็นธรรมอย่างเต็ม รอบคอบ

 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ข่าวออกไปว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาคดีนี้ ผู้ร้องก็มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงต้องมาพิจารณาเรื่องการให้ความเป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำมาพิจารณา แต่ขณะเดียวกัน ต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นการประวิงเวลาหรือไม่

 

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรมและพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน ไม่เช่นนั้น ป.ป.ช.จะต้องถูกย้อนโดยการถูกฟ้อง อย่างที่ผ่านมา ตนและกรรมการ ป.ป.ช.ถูกฟ้องมาหลายเรื่องแล้ว

 

ทั้งนี้ สำหรับสำนวนจีทูจีมันเส้น 3 สำนวน จะเข้าสู่การพิจารณาสัปดาห์หน้า จากนั้นอีกสัปดาห์ จะเป็นการพิจารณาสำนวนจีทูจีข้าว ส่วนการพิจารณาจะครบถ้วนหรือไปไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมที่จะวินิจฉัย และมีมติว่าจะพิจารณาอย่างไร มีความสมบูรณ์ของคดีหรือไม่ จะสามารถชี้มูลได้หรือไม่ 
 
ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า คดีของนักการเมืองระดับชาติที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.นั้น จะเห็นได้ว่า ในระยะหลังนี้ ป.ป.ช.ทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ บางครั้งในสภา ป.ป.ช.จะถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งนักการเมืองหรือไม่ ทำไมในอดีตมีความล่าช้า แต่ทำไมปัจจุบันทำเร็ว

 

"นั่นเป็นเพราะ ป.ป.ช.ปรับระบบการทำงาน โดยทำในระบบ 2 ลู่ คู่ขนานกันไปทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ แต่ถึงแม้จะทำเร็วก็มีประเด็นเกิดขึ้นอีกว่างานกระบวนการยุติธรรม สิ่งสำคัญ คือ ต้องให้ความเป็นธรรม เป็นกลาง หากมีพยานหลักฐานต้องดำเนินการตามขั้นตอน"
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ป.ป.ช.ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือส่วนหนึ่งของการเมือง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า มันก็เป็นไปได้ แต่ต้องถามว่าเรื่องที่กำลังใกล้เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งปรากฏเป็นข่าวสารอยู่ในขณะนั้น เป็นเรื่องที่ใช้ระยะเวลาไต่สวนมานานเท่าไหร่แล้ว ซึ่งนานกว่า 10 ปี ทำให้ขณะนี้อยู่ในกระบวนการเร่งรัด

 

และเมื่อมาเสร็จในช่วงเวลานี้ ต้องถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่บางคนอาจจะมองไปเช่นนั้นได้ แต่ถ้า ป.ป.ช.ตอบสังคมได้ด้วยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเราก็ไม่หวั่น เพราะต้องการให้การไต่สวนคดีเสร็จทุกเรื่อง

 

จะเห็นว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพียงแต่ขอให้มีพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ต้องตระหนักก่อนว่า ป.ป.ช.ถือว่ายังเป็นกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ยังต้องไปสู่กระบวนการอัยการและศาลอีก ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ อย่าเพิ่งไปมองว่าเขาผิด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตจีทูจีข้าว ภาค 2 มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวนมากถึง 71 ราย ทั้งกลุ่มนักการเมือง ข้าราชการการเมือง อาทิ นายบุญทรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส., พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.พาณิชย์, นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

 

โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ในส่วนนายบุญทรง ได้ถูกกันชื่อไว้เป็นพยานในคดี พร้อมกับบริษัทเอกชนบางส่วน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด