นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่ง เรื่อง ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในบริบทโลกที่เปลี่ยนไป ในงานพบปะนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน ที่เข้าร่วมรับฟังกว่า 200 คน ว่า ในช่วงการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย - แปซิฟิก (APEC 2022) รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำ หรือแกนกลางของอาเซียน เพื่อให้ชาติมหาอำนาจ โดยเฉพาะจีนมองเห็นถึงความสำคัญ
"ช่วงการประชุม APEC 2022 กระทรวงการต่างประเทศ ควรต้องคิด อะไรบางอย่างให้นายกรัฐมนตรี สื่อสารและส่งสัญญาณออกไปว่าไทยจะไม่ตกรุ่น ถ้าไทยไม่คิด ไคลแมกซ์ทุกอย่างจะไปอยู่ที่ประชุมสุดยอด G20 ซึ่งจัดขึ้นที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย แล้วการประชุม APEC 2022 ที่ไทยจะกลายเป็นที่กินข้าวเย็นของผู้นำเท่านั้น" นายสมคิด ระบุ
ทั้งนี้ยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา 10-20 ปีก่อน ประเทศไทย และสิงคโปร์ ถือเป็น 2 ชาติ ที่เป็นผู้นำอาเซียนในสายตาของโลก แต่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นอินโดนีเซีย และเวียดนามกำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ และจะขึ้นมาเป็นผู้นำอาเซียนแทน
ดังนั้นถ้าหากประเทศไทยไม่ทำอะไร จะทำให้ไทยหลุดจากแกนนำ และแกนกลางของอาเซียน และในอนาคตจะไม่มีความหมายในสายตาของชาติมหาอำนาจอย่างจีน และสหรัฐอเมริกา
นายสมคิด กล่าวว่า ประเทศไทยต้องสร้างความสมดุลด้านความสัมพันธ์ระหว่างชาติมหาอำนาจของโลก เพราะปัจจุบันไทยมีไพ่ 3 ใบ ที่ต้องสร้างสมดุลและผูกความสำคัญให้กระชับทั้ง 3 ชาติ คือ ด้านเศรษฐกิจ กับประเทศญี่ปุ่น ด้านการเมือง กับสหรัฐอเมริกา และด้านการสร้างอนาคต กับจีน โดยจำเป็นต้องผูกเอาไว้ แต่หากต้องเลือกข้างก็ควรใช้กรอบความเป็นอาเซียนเป็นมติแทน
ทั้งนี้ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน มีความสำคัญอย่างยิ่งกับอนาคตของไทย ซึ่งไทยควรทำตัวให้ดึงดูดว่ามีอะไรดี เพราะถ้าไม่สร้างอนาคนไทยอาจจะหายไปจากสายตาของชาติมหาอำนาจของโลก โดยเฉพาะจีนที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจของโลกใหม่ เทียบเคียงสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่ไทยจำเป็นต้องกระชับความสัมพันธ์กับจีนเอาไว้ มี้ด้วยกันดังนี้