ส.ส.ก้าวไกลโต้เดือด รฟม. ยันส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน รถไฟฟ้าสายสีส้ม “มีจริง”

29 ต.ค. 2565 | 08:12 น.

“สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ส.ส.พรรคก้าวไกล โต้เดือด รฟม. ยันส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้ม “มีจริง” ซัดเงินเข้ากระเป๋าใคร ประเทศเสียหาย ย้ำมีขบวนการกีดกัน BTS ไม่ให้เข้าร่วมประมูล

วันนี้(29 ต.ค.65) นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มโปร่งใส และตรวจสอบได้ ขณะที่ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท ไม่มีจริง ว่า คำชี้แจงของ รฟม.ฟังไม่ขึ้น เพราะ รฟม. ไม่เปิดให้ BTS เข้ามาแข่งขันประมูล ทำให้ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าความเป็นจริง เป็นความจริงนอกสำนวนที่เกิดจากการเล่นตุกติกกีดกัน BTS

 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า หาก รฟม. โปร่งใส ตรวจสอบได้จริง เหตุใดจึงเบี้ยว ไม่กล้ามาตอบคำถามซึ่ง ๆ หน้า ต่อหน้าคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ได้มีการเรียกมาชี้แจงถึง 2 ครั้ง แต่ รฟม. เลือกตอบแบบเลี่ยงคำถาม โดยชี้แแจงแบบต่างคนต่างพูดผ่านสื่อ ควรกล้าเผชิญหน้ากับตัวแทนของประชาชนและคู่กรณี (BTS) ให้ประชาชนได้รับรู้ว่าใครแถ

นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบข้อมูลในชั้นกรรมาธิการทำให้ได้รู้ข้อเท็จจริงว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท มีอยู่จริง โดยการประมูลครั้งแรกผิดปกติ มีการเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ โดยหากไม่มีการเล่นตุกติก BTS ขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐประมาณ 10,000 ล้านบาท ด้วยความที่มีการเล่นตุกติก จึงมีหลายคดีคาราคาซังอยู่ในศาล แต่ รฟม. เลือกที่จะล้มประมูลแล้วเริ่มใหม่ รอบ 2 ที่ BTS ถูกกีดกัน ทำให้ไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง  


“ประเด็นนี้ ไม่ต้องอ้างข้อเทคนิคสารพัด เพราะเห็น ๆ กันอยู่ว่าผู้ประกอบการรถไฟฟ้ารายใหญ่ในไทยมีเพียง 2 ราย คือ BTS และ BEM ทั้ง 2 ราย ควรเข้าแข่งขันได้ เมื่อไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง รัฐก็ต้องจ่ายแพงกว่าที่ควรจะเป็น โดย BEM (ผู้ชนะรอบใหม่) ขอเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนมากถึง 78,000 ล้านบาท ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทจึงมีอยู่จริง 

แต่เป็น “ความจริงนอกสำนวน” เพราะ รฟม. ตั้งใจล้มการประมูลที่มีการแข่งขัน แล้วเริ่มใหม่แบบกีดกัน BTS แต่ BTS ก็เลือกที่จะเก็บซองราคาเอาไว้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซีลอย่างดีและเปิดพิสูจน์ผ่านการ ถ่ายทอดสดให้ประชาชนดูว่าไม่ได้แต่งเติมเข้ามาใหม่” 


นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทนี้ จะไปลงกระเป๋าใคร  ตกไปที่พรรคใดบ้างตนไม่รู้ แต่หากปล่อยให้รัฐบาลนี้รีบเซ็นไปก่อนเลือกตั้ง ประเทศจะเสียหายมาก พรรคก้าวไกลจึงกำลังเตรียมคำร้องเพื่อยื่นฟ้องศาลปกครอง และขอให้ประชาชนเห็นความฉ้อฉลของรัฐบาลนี้ ในการหากินกับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม