แรมโบ้ ซัดโทนี นักโทษหนีคดีต้องเข้าคุก บิ๊กตู่ ไม่ใช้ศาลเตี้ยปราบยาเสพติด

12 ต.ค. 2565 | 06:40 น.

"แรมโบ้" ย้อน"โทนี่" เป็นนักโทษหนีคดี จะกลับมาช่วยคงเป็นไปไม่ได้ ต้องติดคุกก่อน ออกจากคุกพ้นโทษก่อนค่อยว่ากัน ย้ำ "บิ๊กตู่"ไม่ใช้ศาลเตี้ยปราบยาเสพติด ตามแบบทักษิณ ถนัดแน่นอน

วันที่ 12 ตุลาคม 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม วิจารณ์รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ไม่สามารถปราบยาเสพติดได้  และอ้างว่าตอนเป็นนายกฯ ตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง "ฆ่าตัดตอน" เป็นวาทกรรมเท่านั้น 

 

 นายเสกสกล ยืนยันว่ารัฐบาลนายกฯประยุทธ์  มีความจริงใจและจริงจังในการแก้ปัญหายาเสพติด จะเห็นว่าข่าวการจับกุม ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีให้เห็นทุกวัน และต้องยอมรับความจริงด้วยว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติด และปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย  ไม่มีรัฐบาลยุคใดที่สามารถแก้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

 

แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ สามารถจับกุมพ่อค้ายาบ้ายึดทรัพย์และดำเนินคดี ได้มากกว่าในยุครัฐบาลของนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์เสียอีก

 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

นายเสกสกล กล่าวต่อว่าที่นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย อวดอ้างว่ายุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ประกาศนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด จนสามารถจัดการกับปัญหายาเสพติดได้นั้น ก็ควรพูดให้หมดว่า นโยบายนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 ราย  มีการฆ่าตัดตอน  ใช้ศาลเตี้ย ราวกับว่าประเทศชาติบ้านเมืองไร้ซึ่งขื่อแป และในยุคนั้นนานาชาติทั่วโลกต่างออกมาประณามการกระทำของนายทักษิณอย่างมากโดยเฉพาะกรรมการสิทธิมนุษยชนของโลกต่างออกมาประณามการกระทำอันโหดเหี้ยมของรัฐบาลในยุคนายทักษิณจนประเทศไทยคนไทยอับอายขายขี้หน้าทั่วโลก

 

"รัฐบาลนายกฯประยุทธ์  ยึดมั่นในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นไม่ว่าด้วยกรณีปัญหาใด ต้องแก้ภายใต้หลักนิติรัฐ นิติธรรมเป็นสำคัญ  ดังนั้นรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ จะไม่ใช้ระบบศาลเตี้ย แก้ปัญหานอกกติกา ตามแบบที่นายทักษิณ ถนัดแน่นอน" นายเสกสกลกล่าว

นายเสกสกลกล่าวต่อด้วยว่า ในส่วนที่นายทักษิณ บอกว่าให้เรียกตัวเองไปช่วยแค่ 6 เดือนเอาอยู่นั้น ตนสงสัยว่า เหมือนคนเมายาพูด และเกิดอาการหลอน คงนึกไปว่าตัวเองไม่ใช่นักโทษหนีคุกหนีคดี และอยากกลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุก เลิกเมา เลิกหลอน ได้แล้ว เพราะถ้ากลับมามีสถานเดียวต้องกลับมาติดคุก ให้พ้นโทษพ้นคดีก่อน ออกจากคุกเมื่อไรค่อยมาว่ากัน

 

นายกฯประยุทธ์คงจะไม่รับนักโทษหนีคดีมาปรึกษาเป็นแน่ เพราะกลัวจะมีความผิดฐานละเว้น การปฎิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ปล่อยให้นักโทษหนีคดีลอยนวล  นายกฯยึดหลักกฎหมายคงทำเช่นนั้นไม่ได้ ถ้ากลับมาก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ราชทันฑ์ไปรอรับตัว เอาเข้ามาอยู่ในคุกก่อน  ถ้าว่างมากในคุกแล้วอยากจะเสนอแนะอะไรก็ฝากเจ้าหน้าที่มาก็แล้วกัน" นายเสกสกล กล่าว