"สามมิตร"ยังอยู่กับ "พปชร." "สันติ"ยันพรรคไม่ตกต่ำ เชื่อส.ส.ไม่ทิ้งพรรค

วันที่ 11 ตุลาคม 2565  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ใน ฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ ถึงกระแสข่าว ส.ส. ไหลออกจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นจำนวนมากในขณะนี้ว่า 20 วันที่ผ่านมาตนยังไม่ได้พบใครเพราะไปทำภารกิจที่ต่างประเทศมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. กลับมายังไม่ได้ปฏิบัติงานเพราะมีอาการป่วย ส่วนกระแสข่าวที่สามมิตรจะไปพรรคเพื่อไทย นั้นยืนยันไม่เป็นความจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมงานวันเกิดผู้ใหญ่ของพรรคการเมืองหนึ่ง เลยทำให้มองกันว่าอาจย้ายพรรค นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นเพียงข้อสังเกตหนึ่งว่าอาจจะเป็นการกระทำอะไรอย่างหนึ่งที่ไม่ได้เป็นตามรูปแบบปกติของพรรคการเมือง

เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยในพรรคถึงกระแสการย้ายออกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เจอใครเลยในรอบ 20 วัน สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนกำลังมองดูอยู่ แต่ยังไม่ได้คิดและพูดคุยกับใคร คงต้องรอข้อมูลจากหลายหลายฝ่าย อาจมีการคิดอะไรกันบ้างคงทักท้วงและพูดคุยกันได้

เมื่อถามย้ำถึงความชัดเจนของกลุ่มสามมิตร ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “สามมิตรไม่คิดไปไหนครับ ยังยืนยันอยู่พลังประชารัฐ”

เมื่อถามกรณีพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีพร้อมรับกลับ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดและไม่ได้เจอใคร เมื่อถามอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นหัวหน้าและผู้บริหารพรรค ควรเรียกส.ส.มาพูดคุยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ใครสนิทกับใครก็ควรจะคุยกัน และให้รู้ให้ชัดเจน ว่าใครคิดจะยังอยู่และใครคิดจะไม่อยู่

เมื่อถามว่า ยังมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลในครั้งหน้าหรือไม่ ถึงยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม สามารถ ควบคุมสถานการณ์และทำงานได้

เมื่อถามย้ำว่า เป็นเพราะมีเสียงส.ว. 250 เสียงหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เมื่อถามว่า กรณีพล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นนายกฯได้แค่อีก 2 ปีจะเป็นปัญหาหรือไม่ เพราะจะทำให้หาเสียงลำบาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ตนคิดว่าไม่เป็นปัญหา

เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าพรรคพลังประชารัฐ ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่าครับ เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯครบทั้ง 3 รายชื่อหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องพูดคุยกันในพรรคก่อน

ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวส.ส.พลังประชารัฐเตรียมย้ายพรรค ว่า สื่อเขียนไปอย่างนั้นเอง พรรคยังมีความสามัคคีแน่นหนากันอยู่

เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถามผู้ที่มีรายชื่อว่าไปจริงหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ไม่เห็นมีใครบอก

เมื่อถามย้ำว่า อย่างกลุ่มของ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา นายสันติถึงกับหยุดคิดก่อนส่ายหน้าพร้อมระบุว่า ไม่ได้คุย

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่คนที่มีรายชื่อยังจะอยู่กับพรรคพปชร. นายสันติกล่าวว่า ความจริงในพรรคยังไม่มีอะไร อยู่ที่ว่าใครจะเอาไปลงข่าวแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรจริงๆ ก็คุยกันอยู่ประจำ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการปรับสลับเก้าอี้ในส่วนที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่งหรือจะมีการปรับในส่วนอื่นเพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคพปชร.ยังไม่ได้คุยกัน

 เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.จะไปนั่งในตำแหน่งรมว.มหาดไทย เพื่อจัดทัพการเลือกตั้ง นายสันติ กล่าวว่า การปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เมื่อถามอีกว่าหัวหน้าพรรคพปชร.มีความเห็นอย่างไรกับกระแสข่าวดังกล่าว นายสันติ ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน

เมื่อถามย้ำว่า จำเป็นต้องเรียกหารือภายในพรรคเพื่อคุยในประเด็นนี้หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า “ผมว่าส.ส. ของพรรคยังยึดมั่นต่อพรรค  เพียงแต่ก็จะปรากฏเป็นข่าวเวลาที่มีส.ส.ของพรรคไปปรากฎตามงานสำคัญต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และขอย้ำอีกครั้งว่าเราเชื่อมั่นในส.ส.ของพรรค ไม่ต้องเรียกคุย”

เมื่อถามว่า คิดว่าพรรคพปชร.มีอะไรดี ที่จะทำให้ลูกพรรคอยู่กับพรรคต่อ นายสันติ กล่าวว่า พรรคได้ทำประโยชน์ ทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอดอย่างจริงจัง มีการพัฒนาบ้านเมืองโดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 นโยบายของพรรคก็มีจำนวนมาก รวมทั้งโครงการคนละครึ่งและอีกมากมาย

 เมื่อถามว่า ปัจจัยเรื่องกระแสพรรคที่ตกต่ำหรือดาวน์ลงจะมีผลต่อการตัดสินใจของส.สในพรรคหรือไม่ นายสันติ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ดาวน์หรอก อย่างสัปดาห์ก่อนที่ได้เดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชาชนให้การต้อนรับอย่างดี พล.อ.ประวิตรเดินทางไปประชาชนมาต้อนรับและแสดงความยินดีอย่างมากมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไปประชาชนก็ดีใจ มาต้อนรับกันเยอะแยะไปหมด ส่วนที่เกิดความสับสนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์มีเงื่อนไขที่จะเดินหน้าไปต่อได้อีกแค่ 2 ปี เลยไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นคนนำพรรคนั้น สำหรับตนเชื่อว่ายังมีเวลา

เมื่อถามว่า วันนี้กระแสกับกระสุนอันไหนมีความสำคัญมากกว่าในเรื่องการย้ายพรรคของส.ส. นายสันติยิ้ม ไม่ตอบคำถาม ก่อนเดินไปทันที