“3 ป.” ชี้ชะตาการเมืองไทย

06 ต.ค. 2565 | 22:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

***หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3824 ระหว่างวันที่ 6-8 ต.ค.2565 โดย...กาแฟขม  
 

*** ประเทศไทยหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ไปต่อ หลังเว้นวรรคมา 1 เดือน ศาลรัฐธรรมนูญ 6 ต่อ 3 เริ่มนับอายุการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ปี 2560 เหลือเวลาอีก 2 ปีเศษจากนี้ แต่เมื่อถึงการเลือกตั้ง จะมีพรรคการเมืองใดเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป และความสัมพันธ์ระหว่างระหว่าง 3 ป. หลังจากนี้ไปจะเป็นเช่นไร โดยเฉพาะ ป.ประยุทธ์ กับ ป.ประวิตร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมกับพลิกภาพขึ้นเป็นผู้นำในห้วงนั้น ถึงกับลงทุนใส่กางเกงยีนส์ในมาดวัยสะรุ่น พร้อมลงพบมวลชนถี่ยิบ และอนุมัติงบประมาณแบบทะลักทะลายเลยทีเดียว ที่บอกว่าต้องจับตาความสัมพันธ์ 3 ป. เพราะเป็นความสัมพันธ์และขุมข่ายอำนาจที่ชี้ชะตาการเมืองไทย การเคลื่อนไหวของขั้วอำนาจนี้ล้วนมีผลต่อการเมือง นโยบาย และชีวิตคนไทย 
 

***ปรับแน่ครม.โค้งสุดท้าย นักวิเคราะห์คาดการณ์กันถึง 6-7 ตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ รมช.แรงงาน ว่างเว้นมานาน รมช.ศึกษาธิการ รมช.มหาดไทย ไหนจะ รมว.พัฒนาสังคม ในโควต้า พรรคประชาธิปัตย์ หรือ กระทั่งรัฐมนตรีดีอีเอส ในโควต้าพรรคพลังประชารัฐแกนนำ ไล่ไปถึงตำแหน่ง รมช.กลาโหม ก็อยู่ในข่ายการปรับ การหาคนมาแทน กระทั่งในกระทรวงเศรษฐกิจ แต่อาจหาคน ผู้เชี่ยวชาญ นักบริหารมือดีมานั่งยากสักหน่อย เวลาน้อยไม่มีใครอยากมาให้เปลืองตัวสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะ ภาคเอกชน นักบริหารเศรษฐกิจที่มือฉมังหน่อย ถ้ามองไปข้างหน้า โดยเฉพาะกระโดดออกมาแล้ว ต้องพ้นไปพร้อมนายกฯ ประยุทธ์ จะได้ไม่คุ้มเสีย 

 

*** “บิ๊กตู่” ไปต่อ ก็มีการบ้านให้ทำเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะการนำประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค ซึ่งเป็นวาระสำคัญอย่างมาก แม้ผู้นำชาติยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ ปฏิเสธการร่วมประชุม เลือกงานแต่งหลานสาวแทน แต่การประชุมต้องดำเนินต่อไป เป็นเจ้าภาพที่ดีและต้องได้เนื้อหาสาระ ไม่ใช่ให้เป็นแค่เวทีผู้นำมาแต่งชุดหรูๆ จิบไวน์ แชมเปญ ถ่ายรูปแล้วแยกย้าย พลังของความเป็นเจ้าภาพ พลังของผู้นำ พลังของประเทศต้องแสดงศักยภาพออกมาให้เห็น
 

*** นี่ก็เรียกร้องหลัง “บิ๊กตู่” อยู่ต่อ อุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด เศรษฐกิจโลกถดถอย สงครามยืดเยื้อ ต้นทุนน้ำมัน ค่าขนส่ง เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย วัสดุก่อสร้างปรับตัวสูง แรงงานขาด ต้นทุนวัสดุก่อสร้างพุ่งไม่ต่ำกว่า 30% ฉะนั้นรัฐบาลต้องช่วยด้วยการ ยกเลิกค่าเค (ดัชนีความผันผวนต้นทุนค่าก่อสร้าง) ที่ต้องจ่ายล่วงหน้ารวมกับค่างานประมูลโครงการ ขอใช้วัสดุก่อสร้างสะท้อนราคาตลาดที่แท้จริง ไม่ควรอ้างอิงราคาจากกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดราคาที่ต่ำเกินไป ขอให้รัฐยกเลิกการใช้วัสดุก่อสร้างภายในประเทศประกอบการก่อสร้างโครงการสัดส่วน 60% เช่น เหล็ก เพราะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับวัสดุจากต่างประเทศ และรัฐทบทวนราคากลางประมูลงานใหม่ทุกโครงการ เพราะไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าหลายรายการ  
 

*** น้ำท่วมยังวิกฤติไปทั่ว เริ่มที่แม่น้ำปิง เชียงใหม่ ล้นตลิ่งส่อท่วมหนักในพื้นที่เชียงใหม่ กรมชลประทานเข้าชาร์จแล้ว เตือนภัยให้ระมัดระวัง ถ้าหากเชียงใหม่ท่วม หมายถึงการต้องระบายน้ำแม่น้ำปิงลงมา เจ้าพระยามากขึ้น และหลังจากนั้น ท้ายน้ำเจ้าพระยาก็ต้องระมัดระวัง ไล่ตั้งแต่อยุธยา ลงมา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ น้ำท่วมขังอยู่แล้วในบางพื้นที่ อย่างอยุธยา น้ำหลากเข้าทุ่งบางบาลขยายวงไปเรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้ว น้ำเหนือจะเข้าเติมก็จะทำให้สถานการณ์หนักขึ้น
 

*** ก้าวสู่ปี 33 สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ปีที่ 33 ของการให้บริการในฐานะองค์กรที่ค่อยๆ บุกเบิกด้านโทรคมนาคม จากโทรศัพท์มือถือยุค Analog มาเป็น Digital 2G 3G 4G จนกระทั่งในปัจจุบัน เป็น 5G ที่มีคลื่นความถี่มากที่สุด ดีและเร็วที่สุด ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดของไทย และยังมีโครงข่าย FBB ความเร็วสูง AIS Fiber ให้กับลูกค้ากว่า 2 ล้านราย รวมทั้ง Digital Platform ต่างๆ ให้กับลูกค้า AIS ภูมิใจสร้าง Digital Infrastructure ให้กับประเทศไทย และคนไทยได้ใช้งาน ในยุค Digital Disruption 
 

***แปลกๆ เมื่อ เศรษฐา ทวีสิน ซีอีโอแสนสิริ ผู้เกรียวกราว ออกมากระทุ้งไปยังพีทีที โออาร์ ว่าด้วยเรื่องร้านกาแฟ นัยว่ามีทุนเยอะแยะจะไปเปิดร้านกาแฟ ขยายร้านกาแฟ แข่งกับรายย่อยเขาทำไม ก็ดูดีในความเห็นในมุมรายใหญ่แข่งรายย่อย แต่ทั้งวงจร ทั้งระบบ การแข่งขันกับแบรนด์กาแฟต่างประเทศหล่ะ จะให้ใครไปเปิดแข่ง แบรนด์ไทย กาแฟไทย จะไม่ให้คิดขยายขายแข่งกับแบรนด์กาแฟนอก ที่เข้ามาโจมตีตลาดไทยเลยเชียวหรือ ก็ลองพิจารณาอีกมุม