“เพื่อไทย”คึกแลนด์สไลด์ “พปชร.-ภูมิใจไทย”ไม่หวั่น

02 ต.ค. 2565 | 06:22 น.

“เพื่อไทย”คึกแลนด์สไลด์“พปชร.-ภูมิใจไทย”ไม่หวั่น  : ปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นระดับท้องถิ่น แต่ก็ทำให้พรรคเพื่อไทย คุยฟุ้งว่าหากการเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติเกิดขึ้นในเร็ววัน พรรคก็มีโอกาสคว้าชัยชนะสูงกว่าพรรคไหนๆ

ผลการเลือกตั้ง “สนามท้องถิ่น” ซึ่งเป็นสนามวัดความนิยมก่อนจะไปสู่สนามเลือกตั้งใหญ่ ในช่วงต้นปี 2566 ผลที่ออกมาแต่ละสนาม ดูจะทำให้ “พรรคเพื่อไทย” ภายใต้การนำของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย มีความคึกคักเป็นพิเศษ


เพราะกระแส  “แลนด์สไลด์” ที่ อุ๊งอิ๊ง และ ขุนพลพรรคเพื่อไทย ได้โหมปลุกแฟนคลับของตัวเองให้กลับมาเทคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพียงแค่วาทกรรม แต่ได้ผลเป็นจริงขึ้นมาบ้างแล้ว

ทั้งสนามชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด และ นายก อบจ.กาฬสินธุ์ 2 สนามเลือกตั้งซ่อม คนของพรรคเพื่อไทยสามารถเอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอยเกินครึ่งมาแล้ว


+แลนด์สไลด์สนามท้องถิ่น


เริ่มจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค.2565 “เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล” ผู้สมัครนายกอบจ.กาฬสินธุ์ ในนามพรรคเพื่อไทย ชนะมาเป็นอันดับหนึ่งได้คะแนนไปถึง 249,093 คะแนน สามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง “ชานุวัฒน์ วรามิตร” ที่ได้ 150,443 คะแนนไปอย่างขาดลอย 98,650 คะแนน

ตามมาด้วยสนามล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2565 “เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์” ผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ในนามพรรคเพื่อไทย เช่นกัน คว้าชัยอันดับหนึ่ง ได้ 301,187 คะแนน เอาชนะ “จุรีพร สินธุไพร” ที่ถอดแบรนด์พรรคพลังประชารัฐ มาลงอิสระ อันดับสอง ที่ได้ 126,649 คะแนน ทิ้งห่างกันถึง 174,538 คะแนน 


ขณะที่แชมป์เก่า นายก อบจ.ร้อยเอ็ด อย่าง  “เอกภาพ พลซื่อ” ที่เคยคว้าชัยชนะ ในการเลือกตั้งเมื่อ 20 ธ.ค.2563 ได้ 221,845 คะแนน มาครั้งนี้ ส่งแม่บ้าน “รัชนี พลซื่อ” ลงในนามอิสระ กลับได้มาเพียง 116,027 คะแนนหายไปกว่าหนึ่งแสน 


แน่นอนว่า คะแนนที่หายไป ไปเทให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และ จุรีพร สินธุไพร


ปรากฏการณ์ “แลนด์สไลด์” ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นระดับท้องถิ่น แต่ก็ทำให้พรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นในสนามภาคอีสานมากขึ้น และคุยฟุ้งว่าหากการเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติเกิดขึ้นในเร็ววัน พรรคก็มีโอกาสคว้าชัยชนะสูงกว่าพรรคไหนๆ กับเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ การคว้าเก้าอี้ ส.ส. 253 เสียง ย่อมมีความเป็นไปได้


ขณะที่สนามเลือกตั้งระดับชาติ หากย้อนไปในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หลักสี่-จตุจักร เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา สุรชาติ เทียนทองส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย สามารถเอาชนะคู่แข่ง โดยมีคะแนนทิ้งห่างเฉียดหมื่น ด้วยฐานคะแนนของตัวเองและกระแสพรรค 


โดย สุรชาติ เทียนทอง ได้มา 29,416 คะแนน กรุณพล เทียนสุวรรณ จากพรรคก้าวไกล ได้ 20,361 คะแนน และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า ได้ 20,047 คะแนน


ส่วน สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 7,906 คะแนน ซึ่งสะท้อนช่วงขาลงของพรรคแกนนำรัฐบาล แม้พื้นที่ดังกล่าว สิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. จะเป็นแชมป์เก่าก็ตาม 


+แลน์ดสไลด์ ส.ก. 


ขณะที่ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย ก็สามารถกวาดเก้าอี้ ส.ก.มาได้ถึง 20 เขต จากทั้งหมด 50 เขต โดยได้คะแนนรวมทั้งหมด 352,066 คะแนน ทำให้พรรคเพื่อไทย ตีปี๊บว่าเป็นปรากฏการณ์ “แลนด์สไลด์” และสร้างความฮึกเหิมในกับพรรคมากขึ้น

 

ส่วนผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็แลนด์สไลด์ กวาดไปได้ 1,386,215 คะแนน ชนะคะแนนรวมของผู้สมัครทุกคน ถึงแม้ว่า ชัชชาติ จะลงในนามอิสระ แต่พรรคเพื่อไทยก็พยายามโยงว่าไม่ใช่คนอื่นไกลสำหรับพรรค เพราะยังมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอยู่ด้วย


ผลการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่พรรคเพื่อไทยชี้ว่าเป็นการ “แลนด์สไลด์” และเกิดความคึกคังขึ้นมา คาดหมายว่าการเลือกตั้ง “ระดับชาติ” ก็น่าจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์เช่นกันนั้น ในสายตาของผู้ยิ่งใหญ่แห่ง พรรคพลังประชารัฐ และ ภูมิใจไทย กลับไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด 

                             “เพื่อไทย”คึกแลนด์สไลด์ “พปชร.-ภูมิใจไทย”ไม่หวั่น


+“บิ๊กป้อม”ชี้ชนะนิดหน่อย


โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2565 บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม “นายก อบจ.ร้อยเอ็ด” ที่พรรคเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์ ได้กว่า 3 แสนคะแนน มากกว่าผู้สมัครทุกคนรวมกันว่า“แลนด์สไลด์อะไร ก็ชนะไปนิดหน่อยธรรมดา แบ่งๆ คะแนนกันไป ไม่เป็นไรหรอก” 


ส่วนจะส่งผลต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมจะไปรู้ พอผมไม่รู้คุณก็จะไปตอบว่า ผมไม่รู้” 
เมื่อถามว่าหลังจากนี้พรรคพลังประชารัฐต้องปรับกลยุทธ์อะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร เดินออกจากวงสัมภาษณ์พร้อมบ่นว่า “ปรับกลยุทธ์อะไร” 


เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า พล.อ.ประวิตร โปรยทานในพิธีอุ้มพระดำน้ำส่อขัด กฎหมายเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “โอ้ย! ผมโปรยขนม โปรยขนม รู้จักหรือกันมั้ย เป็นประเพณีที่ทำกันมา 500 ปีแล้ว”


+ ไม่หวั่นพท.แลนด์สไลด์


เช่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2565 ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด กระแสแลนด์สไลด์จะลามลงมาในพื้นที่อีสานใต้หรือไม่ ว่า “จ.ร้อยเอ็ด ไม่ใช่จังหวัดเป้าหมายหลัก เพราะเราส่งแค่ 1 เขต ทุกอย่างจะรู้ว่าแลนด์สไลด์ หรือตอกเสาเข็มก็วันเลือกตั้ง ไปดูกันวันนั้น

 

เมื่อถามว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำเป็นการพยายามโหมโรงในพื้นที่ของตัวเองใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ทุกคนเวลาลงพื้นที่จะต้องทำให้มีกำลังใจต่อผู้สมัคร และสมาชิก เป็นเรื่องธรรมดา และเป็นกติกาที่รับได้อยู่แล้ว เมื่อพรรคภูมิใจไทยลงพื้นที่ ก็มีการเฮเป็นแถว แต่ที่สำคัญคือ การคัดเลือกผู้สมัครที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากที่สุด


+อีสานวัดพท.แลนด์สไลน์? 


... สมรภูมิเลือกตั้งภาคอีสาน ถือเป็นสนามใหญ่ที่สุด ในการเลือกตั้งปี 2562  อีสานมี 116 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ไป 84 ที่นั่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.ไป 16 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ ได้ส.ส. ไป 11 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส. 2 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนา ได้ ส.ส. ไปพรรคละ 1 ที่นั่ง

 

การเลือกตั้งสมัยหน้า สนามภาคอีสาน จะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 132 ที่นั่งคาดหมายว่ากระแส “อุ๊งอิ๊ง” ที่มาแรงในทุกวันนี้ จะให้พรรคเพื่อไทยกวาด ส.ส.อีสาน ไปได้มากกว่า 100 ที่นั่ง เหมือนยุคสมัยนารีขี่ม้าขาวภาคแรก ปี 2554


แต่จะเป็นไปดังที่ “ฝัน” ไว้ หรือไม่ ยังต้องดูกันยาว ๆ จนกว่าจะปิดหีบ และนับคะแนน เมื่อผลเลือกตั้งออกมานั่นแหละ ถึงจะรู้ว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่”


+++


“อุ๊งอิ๊ง”โหมหนักแลนด์สไลด์
  

ทุกเวทีที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย เดินสายลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัครส.ส. หรือ ไปช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคหาเสียง ก็มักจะเรียกร้องแฟนคลับ หรือ ประชาชนให้เลือกพรรคเพื่อไทย แบบ “แลนด์สไลด์”

 

อย่างกรณี เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ภายใต้ชื่องาน “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ซึ่งครอบครัวชินวัตร ต่างเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพียง 

 

อุ๊งอิ๊ง ปราศรัยว่า รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้ปราศรัยที่เชียงใหม่บ้านเกิดของนายทักษิณ ผู้เป็นพ่อ และตื่นเต้นมากที่แม่มาร่วมให้กำลังใจด้วย ที่ผ่านมาการพัฒนาเชียงใหม่และภาคเหนือเป็นสิ่งที่ พรรคเพื่อไทย ผลักดันมาตลอด และจะดำเนินการตามเจตนารมณ์นี้ต่อไป 

 

“อยากให้เชื่อมั่นว่า พรรครู้จักภาคเหนือดีกว่าทุกพรรค รวมทั้งขอให้คนทั่วประเทศมั่นใจว่า หากพรรคได้ทำงานจะสร้างความอยู่ดีกินดีให้อย่างแน่นอน ซึ่งอยากขอรับการสนับสนุนจากคนไทย ให้ช่วยเทคะแนนเสียงให้พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งให้ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แล้วจะช่วยกันเดินหน้าทำงานสะสางทุกปัญหาและทำให้ประชาชนทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น”


หรืออย่างการไปปราศรัยหาเสียง นายกอบจ.ร้อยเอ็ด ช่วย เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ผู้สมัครของพรรค ที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2565 อุ๊งอิ๊ง ก็ปราศรัยว่า “ถ้าอยากให้พรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ให้พี่น้องช่วยเลือก เศกสิทธิ์ เบอร์ 2 เลือกให้มาก ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของพี่น้อง เลือกให้แลนด์สไลด์กันทั้งจังหวัดร้อยเอ็ด”


ต่อด้วยการปราศรัยหาเสียง ที่ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด วันเดียวกัน ก็ระบุว่า “ผู้สมัครทำงานดี ก็เชื่อว่าจะสามารถรับใช้พี่น้องได้อย่างดีเช่นกัน จึงขอฝากหมายเลข 2 ไว้ให้พี่น้อง และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ที่จังหวัดร้อยเอ็ดนี้ ต่อเนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์อีกครั้ง”