ส่องโอกาส ปรับ ครม. "กนกวรรณ" ลุ้น หลุดเก้าอี้

05 ก.ย. 2565 | 17:05 น.

ส่องโอกาส "ปรับ ครม." รอบใหม่ ก่อนสิ้นปี หลังศาลนัดชี้ชะตาวินิจฉัย "พล.อ.ประยุทธ์" ปม 8 ปีนายกฯ "นิพนธ์" คดีละเว้นเบิกจ่ายค่ารถซ่อมบำรุงทาง "กนกวรรณ"คดีรุกป่าเขาใหญ่ ส่อหลุดเก้าอี้หรือไม่

ปีนี้เพียงปีเดียว ครม.ชุดปัจจุบันภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบอุบัติเหตุทางการเมืองแล้ว 3 รายจากคดีที่แตกต่างกัน เริ่มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เบอร์หนึ่งของ ครม.เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จากกรณีครองตำแหน่งครบ 8 ปี

 

น่าสนใจว่า สำหรับคดีนี้นับเป็นคดีที่ 4 ของ "พล.อ.ประยุทธ์" ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เจอพายุใหญ่มาแล้ว 3 คดี คือ กรณีการถวายสัตย์ โดยศาลมีมติเอกฉันท์ ไม่ร้บคำร้อง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.62 

 

พล.อ.ประยุทธ์ ลุ้นปม 8 ปีนายกฯ 

ถัดมาในวันที่ 18 ก.ย. 62 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นนายกฯ เพราะหัวหน้า คสช. ไม่เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามด้วยกรณีที่ศาลรธน.ต้นเดือนธ.ค.63 มีมติเอกฉันท์ว่า "พล.อ.ประยุทธ์" ไม่ขาดคุณสมบัติกรณีพักบ้านหลวง กระทั่ง ในวันที่ 24 ส.ค.65 ศาลมีมติ 5 ต่อ 4 รับคำร้องกรณีปมนายกฯ 8 ปี และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมนัดพิเศษ ในวันที่ 8 ก.ย.2565 เพื่อพิจารณาปมการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี หลังจากที่ได้รับคำชี้แจงของพยาน 3 ปาก ในคดี 8 ปีนายกฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประกอบด้วย คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกร้อง นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการคณะกรรมการร่างรธน. โดยคาดว่า ศาลจะมีคำวินิจฉัยในคดีนายกฯ ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ย.นี้ 
 

"นิพนธ์" ศาลนัดชี้ชะตา 14 ก.ย.นี้ 

จากนั้นถึงคิวของ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ชิงยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า เพื่อมาขึ้นศาลต่อสู้คดีกรณีสั่งระงับการเบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทาง 2 คัน วงเงินรวม 50 ล้านบาท สมัยดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบจ.สงขลา โดยในวันดังกล่าว ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดไต่สวนครั้งแรกเพื่อพิจารณาสั่งให้ นายนิพนธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ แต่นายนิพนธ์ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เสียก่อน

 

ขณะที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (8) หรือไม่

จากกรณีเคยถูก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่งให้พ้นจากตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1528/2564 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2564 และเป็นกรณีที่นายนิพนธ์ ผู้ถูกร้อง เป็นผู้เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ทำให้นายนิพนธ์ ผู้ถูกร้อง เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (8) 

 

อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ตาม มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และสั่งว่า นายนิพนธ์ ผู้ถูกร้องไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย


ทั้งนี้ เอกสารข่าวสารของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ 

 

จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง จึงกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันพุธที่ 14 ก.ย. 2565 เวลา 15.00 น. 


สำหรับกรณีนี้เริ่มมาจากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ นายก อบจ.สงขลาของนายนิพนธ์ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา กรณีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทาง 2 คัน วงเงินรวม 50 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท พลวิศว์เทค พลัส จำกัด เมื่อปี 2556 สมัยนายนิพนธ์ ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลา

 

"กนกวรรณ" ลุ้นคดีรุกป่าเขาใหญ่ 

"กนกวรรณ วิลาวัลย์" ส.ส.ภูมิใจไทย เป็น รมช.ศึกษาธิการ รายล่าสุด ที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง รุกที่ป่าเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 และสั่งให้ นางกนกวรรณ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา พร้อมนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เวลา 09.30 น.  


สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2545 ผู้คัดค้านดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 15 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เนื้อที่ 30-2-80.5 ไร่ โดยอ้างว่า ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจากนายทิว มะลิซ้อน เมื่อปี 2533 แต่นายทิวไม่มีตัวตน ทั้งไม่เคยมีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ทำให้รัฐสูญเสียที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติให้แก่ผู้คัดค้าน 

 

การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จึงมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นความเสียหายร้ายแรง ผู้คัดค้านยังคงยึดถือครอบครองที่ดินต่อเนื่องตลอดมา จนกระทั่งเข้าดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

 

ต่อมาศาลฎีกา มีคำสั่งรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 87 รรคสาม และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 ข้อ 12 วรรคสอง นัดพิจารณาครั้งแรกในวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น


ในขณะที่อนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวเรือใหญ่ของรัฐบาล และ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง รอวันที่ศาลวินิจฉัยชี้ขาดอยู่ในขณะนี้นั้น แนวโน้มการปรับ ครม.ที่จะเกิดหลังคำวินิจฉัยของศาลยิ่งมีมากขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งของรัฐมนตรีช่วยในกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย 

 

ลุ้นปรับ ครม. 

สำหรับตำแหน่งหัวโต๊ะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น วันนี้ได้ "พี่ใหญ่" แห่ง 3 ป. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มานั่งบัญชาการ รักษาการนายกรัฐมนตรี แทนไปเป็นที่เรียบร้อย โดย พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้เหลือเพียงตำแหน่งเดียว คือ เก้าอี้ "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม" 

 

ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษเวลานี้จึงหนีไม่พ้น ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ของ นายนิพนธ์ ซึ่งเป็นโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์ และ ตำแหน่ง รมช.ศึกษา ของ นางกนกวรรณ โควต้าพรรคภูมิใจไทย จึงน่าสนใจไม่น้อยว่า แต่ละพรรคจะจัดสรรใครมานั่งในตำแหน่งนี้กันต่อไป