ก.ตร.ตีกลับเลื่อนเงินเดือนให้ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ คนพา“ยิ่งลักษณ์”หนีจำนำข้าว

25 ก.ค. 2565 | 09:18 น.

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร. รับทราบรายงานตำรวจทำผิดวินัย รอบเดือน ก.ค.65 ลงโทษ 32 นาย ไล่ออกจาราชการ 19 ราย ปลดออก 1 ราย สะสมปีนี้ไล่ออกแล้ว 133 นาย ตีกลับให้ทบทวนใหม่กรณีเลื่อนเงินเดือนพิเศษให้ “พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์” ตำรวจพา “ยิ่งลักษณ์”หนีคดีจำนำข้าว 

วันนี้(25 ก.ค.65) ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2565 โดยมีคณะกรรมการ ก.ตร., ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร.วินัย คณะอนุกรรมการ ก.ตร.ร้องทุกข์ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร. บริหารทรัพยากรบุคคล เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง


หลังการประชุม  พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( โฆษก ตร. ) เปิดเผยว่า  คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน ก.ค. 2565 มีข้าราชการตำรวจลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 20 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 19 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 1 ราย 

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. 2565 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 165 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 133 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 32 นาย นอกนั้นเป็นวาระการประชุมรับรองรายงานการประชุมของคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจทั่วไป

 

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับในที่ประชุมให้ตำรวจไปวางมาตรการป้องกันอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเรื่องผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ อาจจะเกิดเหตุลัก วิ่ง ชิง ปล้น ได้จึงให้ตำรวจไปวางมาตรการในการดูแลเรื่องนี้จะป้องกันอย่างไร ทั้งนี้ กำหนดการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมประจำเดือนตามปกติ ส่วนการประชุมกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ( ก.ต.ช. ) ยังไม่ได้กำหนด

ส่วนกรณีการขอเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษให้แก่ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการ 1 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นนายตำรวจนำพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลบหนีคดีจำนำข้าว พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ที่ประชุมให้นำกลับไปทบทวน เพื่อความรอบคอบเรื่องระเบียบ กฎหมาย และสิทธิประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ได้มีรายเดียว มีหลายกรณีที่คณะกรรมการให้กลับไปทบทวนใหม่ ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลา ส่วนจะกลับเข้าที่ประชุมใหม่เมื่อใดจะต้องพิจารณาเป็นรายเรื่องไป เพราะวันนี้มีหลายเรื่องที่ต้องนำกลับไปทบทวน


นอกจากนี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ ยังกล่าวถึงกรณีตำรวจสิงคโปร์ออกหมายแดงหญิงไทยและสามีสิงคโปร์ ฉ้อโกงรับออเดอร์นาฬิกา-กระเป๋าแบรนด์หรู มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ว่า มีการประสานข้อมูลทางข้างระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนความร่วมมือทางการทูตมีความร่วมมือแบบไม่เป็นทางการส่วนหนึ่ง ส่วนการติดตามตัวขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการติดตามตัวว่าเจอแล้วหรือยัง ทั้งนี้มีการประสานข้อมูลระหว่างตำรวจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด ส่วนยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้