“ส.ส.เพื่อไทย” ฉะ "บิ๊กป๊อก" เอื้อเอกชนทำรัฐเสี่ยงเสียหายกว่า 3.6 หมื่นล้าน

20 ก.ค. 2565 | 14:12 น.

“ส.ส.เพื่อไทย” ฉะ "บิ๊กป๊อก" เอื้อเอกชนทำรัฐเสี่ยงเสียหายกว่า 3.6 หมื่นล้าน โครงการร่วมลงทุนน้ำประปาปทุมธานี-รังสิต

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอนหนึ่งว่า ขอกล่าวหาพล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะที่กำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาคตามพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม ปีพ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาคปีพ.ศ. 2522 มาตรา4 และมาตรา 46 

 

ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์มีหน้าที่ในการกำกับทั่วไปในการประปาส่วนภูมิภาค และมีหน้าที่สั่งการให้การประปาส่วนภูมิภาคชี้แจงข้อเท็จจริงแสดงความเห็นหรือทำรายงานยับยั้งการกระทำของการประปาส่วนภูมิภาคที่ขัดต่อนโยบายรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรี 

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการเอกชนร่วมลงทุนน้ำประปาปทุมธานี-รังสิต ซึ่งรัฐมีความเสี่ยงที่จะเสียหายกว่า 36,513 ล้านบาท โดยพฤติกรรมการกระทำความผิดของพล.อ.อนุพงษ์มีดังนี้ 

1.ในฐานะที่เป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่รอบคอบ ไม่ระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมต่างๆเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้บุคคลแวดล้อมและพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชนโดยละเว้นและเพิกเฉยต่อการทุจริตในภาครัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง โดยไม่ใส่ใจที่จะป้องปราม 

 

2.มีพฤติการณ์จงใจสมคบคิดเป็นตัวการในลักษณะแบ่งแยกหน้าที่กันทำทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในลักษณะช่วยเหลือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนไม่ระงับยับยั้งการปฎิบัติราชการใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 

 

ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมหากาพย์การโกง ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดทำกันเป็นขบวนการ จัดฉากเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเพียงรายเดียว นั่นคือความพยายามที่จะพยายามต่อสัญญาโครงการน้ำประปาปทุมธานี-รังสิตกับการประปาส่วนภูมิภาคไปอีก 20 ปี

 

คือที่การกระทำผิดเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพ.ศ. 2562 ถ้ายังคงไม่ยับยั้งกระบวนการเหล่านี้ก็จะเป็นเหมือนกับที่ตนได้บอกมาแล้วจะถูกกล่าวหาว่ากินแม้กระทั่งน้ำประปา

 

"พล.อ.อนุพงษ์ดิ้นไม่รอดแน่นอน เพราะผลประโยชน์ของโครงการนี้หอมหวล"

 

พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า การประปามีการทำสัญญากับบริษัทบริษัทหนึ่งโดยมีอายุสัญญา 25 ปี ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2541 ถึงวันที่ 14 ต.ค. 2566 จากนั้นก็มีการศึกษา พบว่าหากการประปาทำเองจะคุ้มค่ามากที่สุด จากนั้นตนก็เห็นชอบตามนั้น ซึ่งตนยังไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงสัญญา เพราะยังเห็นชอบให้การประปาทำเอง 

 

ไม่ทราบว่านายเลิศศักดิ์เอาที่ไหนมาว่าตนจะไปเปลี่ยนแปลงเพราะตนยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนล้าน% โดยได้ให้ความเห็นชอบไปตามนี้เมื่อสิ้นสุดสัญญาการประปาจะทำเองท่านไม่ต้องกังวล  ดังนั้นการประปาเตรียมรับดำเนินการในเรื่องนี้ได้เลย