ภายหลังมีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะไปทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค โดยรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมเมื่อพ้นเดือนสิงหาคม 2565 ที่จะมีความชัดเจนในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปี ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่เสียก่อนนั้น
ฝากฝ่าย “พรรคพลังประชารัฐ” ต่างดาหน้าออกมาปฏิเสธกันพัลวัน ขณะที่ “ฝ่ายค้าน” ออกมาสนับสนุนให้เปิดหน้าลุยการเมืองเต็มตัว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ให้ไปถามคนปล่อยข่าวสิ ไปถามคนที่ปล่อยทิ้ง
เมื่อถามว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ๆ เมื่อถามอีกว่า หากในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯจำเป็นหรือไม่ที่ต้องเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก่อน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ๆ
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นหัวหน้าพรรคไปตลอดหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร เคยบอกว่า จะเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พรรคไปตลอด พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าว และรีบเดินขึ้นห้องไปทันที
"บิ๊กตู่"ยังไม่คิดไกล
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ว่า ตนเพิ่งได้ยินข่าวเมื่อเช้า และไม่รู้ว่าสื่อได้แหล่งข่าวมาจากไหน ตนยังไม่ได้มีอะไรทั้งสิ้น ยังทำงานอยู่เหมือนเดิม ซึ่งทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ฉะนั้นคงต้องตอบได้แค่นี้ ก็ไม่รู้ข่าวนี้มาจากไหน ยังไม่ทราบเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ให้ถามพล.อ.ประยุทธ์ ว่า จะตัดสินใจไปต่อหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ในใจมีคำตอบหรือยังว่าจะไปต่อหรือไม่ในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ผมยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ผมคิดว่าทำอย่างไรจะประคับประคองรัฐบาลนี้ไปให้ครบวาระ เรื่องวันหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนนะจ๊ะ”
เมื่อถามว่าจากการโหวตรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีวาระแรกที่ดูเหมือนเสถียรภาพรัฐบาลเหนียวแน่น นายกฯ กล่าวว่า ก็โอเคนะ ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร จากการอภิปรายในสภาทุกคนก็ช่วยกันดีในเรื่องของงบประมาณ ซึ่งก็ทำให้มติเห็นชอบมากกว่าตามระบบสภาอยู่แล้ว เมื่อเห็นชอบมากกว่าก็ดำเนินการต่อไป ช่วงนี้เป็นช่วงของคณะกรรมาธิการที่จะพิจารณาในรายละเอียด
เมื่อถามว่าจุดยืนอนาคตการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่อะไร พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม เพียงหยุดฟังและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมือง เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามด้วยอารมณ์และน้ำเสียงปกติ ไม่มีอารมณ์หงุดหงิดเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
"ชัยวุฒิ-อนุชา"ไม่เคยได้ยิน
ด้าน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ไม่ได้ยิน ๆ” พร้อมทั้งโบกมือและเอามือปิดหู ก่อนกล่าวอีกว่า “ไม่รู้เรื่อง”
เช่นเดียวกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า ไม่ทราบจริงๆ ในพรรคพลังประชารัฐยังไม่เคยมีการพูดคุย หรือได้ข่าวในเรื่องดังกล่าว น่าจะไปสอบถามแหล่งข่าว หรือ นักข่าวที่เสนอข่าวนี้ออกมาเป็นคนแรกว่าไปเอาข่าวมาจากไหน แต่ยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีเรื่องนี้ และไม่เคยได้ยิน
เมื่อถามว่าเป็นการปล่อยข่าวเสี้ยม ให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร แตกกันหรือไม่ นายชัยวุฒิ ตอบว่า แล้วแต่จะคิด แต่ในหลักการหากในพรรคจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร ก็ต้องมีการพูดคุยกัน แต่วันนี้ยังไม่มีเรื่องดังกล่าว
อีกทั้งบรรยากาศภายในพรรคยังเป็นไปได้ดี ยังทำงานได้ราบรื่นอยู่ เห็นได้จากการลงมติในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2566 ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร แสดงให้เห็นว่าการทำงานของคณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปด้วยดีอยู่ ไม่มีความขัดแย้ง ขอร้องอย่าไปคิดมาก
เมื่อถามว่าหากอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จริงถือว่าดีหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอตอบดีกว่า เอาไว้ให้ถึงเวลา แต่ยืนยันว่ายังไม่ได้ยินเรื่องนี้
"สมศักดิ์"ชี้เป็นไปได้-ไม่ได้
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความเห็นว่า นายกฯ เองไม่ได้แสดงเจตจำนงอะไร และ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ก็ไม่ได้บอกว่า จะลาออก แสดงว่าน่าจะมีการปล่อยข่าวออกมา แต่ไม่ทราบว่า ใครเป็นคนปล่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าข่าวที่ออกมาเป็นการเสี้ยมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น มีทั้งเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ ข่าวอย่างนี้ก็มีมาอยู่ตลอดเวลา” เมื่อถามว่า ดูท่าทีนายกฯ อยากมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดูเหมือนไม่มี เมื่อถามย้ำว่า คนในพรรคอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนตอบแทนไม่ได้ ยังไม่รู้เลย
เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าข่าวที่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก พปชร.อีกครั้ง เป็นการปูทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากที่พรรครวมไทยสร้างชาติแท้งไปแล้ว นายสมศักดิ์ ตอบว่า “ผมเพิ่งคิดนี่แหล่ะ ก็น่าคิด”
สมาชิกหน้าเดิมปล่อยข่าว
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวว่า ขอยืนยันว่าเป็นข่าวโคมลอย บิดเบือน มุ่งหวังปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วน ไม่มีความจริงแต่อย่างใด
ความจริงแล้วหัวหน้าพรรคได้กล่าวกับสื่อมวลชน และในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า จะดูแลเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าพรรคตลอดไป ซึ่งสร้างความมั่นใจ เชื่อมั่น และความสบายใจให้กับกรรมการบริหาร และ ส.ส.ทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น ตนในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมาย และข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐ จะตรวจสอบว่าเป็นสมาชิกพรรคผู้ใดที่ไปปล่อยข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายกับพรรค โดยการตรวจสอบในเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นสมาชิกพรรคที่เพิ่งเข้ามาสมัครใหม่ หลังจากในอดีตเคยลาออกไปแล้วจะไปจัดตั้งพรรคขึ้นใหม่ ซึ่งในช่วงนั้นก็ไปปล่อยข่าวในลักษณะนี้ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อประโยชน์ของตนเอง และพรรคพวก
แต่เมื่อปัจจุบันบุคคลดังกล่าวได้ขอเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังมีพฤติกรรมเดิมคอยปล่อยข่าวในลักษณะเป็นปฏิปักษ์กับพรรค บิดเบือนมุ่งหวังปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วน เพื่อให้พรรคขาดเสถียรภาพ สร้างความสับสนให้กับสังคม เสียหายต่อภาพลักษณ์ความเป็นเอกภาพของพรรค จึงต้องตรวจสอบการกระทำของบุคคลดังกล่าวว่า ในฐานะสมาชิกพรรคได้มีการกระทำที่ฝ่าฝืนหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อพรรคหรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมของพรรคประการใดบ้าง และจะดำเนินการอื่นกับสมาชิกผู้นั้นตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการต่อไป
ยินดี“บิ๊กตู่”เลิกอีแอบ
ขณะที้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าสมัครสมาชิกพรรค พปชร. และมีแนวโน้มนั่งหัวหน้าพรรคแทน พล.อ.ประวิตร ว่า อยากให้เป็นอย่างนั้น อย่าเป็นอีแอบ อยู่ข้างหลัง นักการเมืองในยุคปัจจุบันต้องโปร่งใส อย่าไปอยู่เบื้องหลัง ไม่เหนียมอายถ้าจะมาเล่นการเมือง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็พร้อมสู้เต็มที่
ขณะที่ นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณี นายประเสริฐ ขอนายกฯ เลิกเป็นอีแอบ ว่า นายกฯ ไม่ได้เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง ซึ่งพรรค พปชร. มี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันที่ผ่านมานายกฯ ก็ชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า ยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ แต่ในฐานะที่พรรค พปชร. เสนออยู่ในบัญชีนายกฯ ไม่ใช่จะไปเป็นหัวหน้าพรรค หรือไปก้าวก่ายการทำงาน เพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมือง นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ออกมายืนยันด้วยว่า ยังไม่ได้คิดที่จะเป็นหัวหน้าพรรค และจะประคับประคองให้รัฐบาลนี้อยู่ครบวาระก่อน
นายชนะศักดิ์ ยังมั่นใจว่า นายกฯ ยังไม่คิดถึงเรื่องการเมืองในขณะนี้ เพราะยังมีเวลา และยังอยู่ในช่วงที่ต้องแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยก็ควรมองถึงเรื่องประเทศชาติเป็นหลักเช่นเดียวกัน อย่าคิดแต่จะเล่นการเมือง