บุกสภาจี้สอบ "เต้ มงคลกิตติ์" ปมคดีแตงโม ส่อผิดจริยธรรมพ้น ส.ส.หรือไม่

01 มิ.ย. 2565 | 10:30 น.

บุกสภา "ทนายตั้ม" ยื่นหนังสือร้อง ประธานสภา จี้สอบ "เต้ มงคลกิตติ์" หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ส่อผิดจริยธรรมพ้นเก้าอี้ ส.ส. หรือไม่ ปมคลิปข่มขู่ ทนายเดชา แสดงความเห็นคดีแตงโม

1 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร  พร้อมด้วย นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชนและสังคม และคณะ

 

สืบเนื่องจากคดีการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงและนางแบบที่ทางเจ้าพนักงานตำรวจอ้างว่า ประสบอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตนในฐานะผู้ประกอบอาชีพทนายความและเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของดาราสาว จนเป็นเหตุให้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เกิดความไม่พอใจและได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อสารมวลชนพูดจาข่มขู่ทั้งยังมีการไลฟ์สดพูดจาข่มขู่อีกด้วย และบุคคลอื่นทางแอปพลิเคชัน Facebook ชื่อ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก

จากการกระทำดังกล่าวของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ นั้นอยู่ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ ส.ส.พูดจาข่มขู่ประชาชนและมีถ้อยคำที่ทำให้เข้าใจได้ว่าจะมีการทำร้ายหรือใช้ความรุนแรงกับตน และบุคคลอื่นที่ไม่เคารพและละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น หรือใส่ร้ายหรือเสียดสีบุคคลใด ผิดประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง จึงขอความเป็นธรรมเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการการกระทำครั้งนี้ต่อไป

ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดซึ่งอาจจะเข้าข่ายเรื่องประมวลจริยธรรม พ.ศ. 2563 มาตรา 13 ว่าด้วยเรื่องของสมาชิกที่ห้ามข่มขู่หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย หรือกำลังประทุษร้าย ผู้อื่นทั้งในบริเวณสภาผู้แทนราษฎร และนอกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะต้องไปดูเงื่อนไขที่พูดว่า สามารถตีความเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน และประเด็นที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวกับประชาชนด้วยวิธีนอกระบบ จากคำว่า กำจัด และจะไปแจ้งความในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือไม่ แต่กรณีดังกล่าวเท่าที่รับฟังนั้นเป็นเรื่องหมิ่นประมาท

 

รวมถึงตรวจสอบเรื่องการแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีความ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร และจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร หากพบว่ามีมูลจะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป เพื่อส่งศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อหยุดปฎิบัติหน้าที่ต่อไป