svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

“จุรินทร์” แจงสภา เงินเฟ้อไทย อยู่ในกลุ่มต่ำสุดในโลก

01 มิถุนายน 2565

“จุรินทร์” แจงสภา ร่าง พรบ.งบประมาณ ปี 66 เงินเฟ้อไทยอยู่ในกลุ่มต่ำสุดในโลก เตรียมเจรจานำเข้าปุ๋ยซาอุฯสัปดาห์หน้า

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงร่าง พรบ.งบประมาณ 2566  โดยกล่าวว่า ขอชี้แจงคำอภิปรายของเพื่อนสมาชิก 1.เรื่องเงินเฟ้อ 2.ราคาปุ๋ย 3.การส่งออก 4.การขาดแคลนอาหารของโลก 5.ข้าวและ6.ซอฟพาวเวอร์


ประเด็นแรกเรื่องเงินเฟ้อ เกิดจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเกิดทั่วโลก ราคาเดือน พ.ค.ปีนี้ เทียบกับปี 64 ราคาดูไบเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 60% ส่งผลต่อต้นทุนสินค้าและการขนส่ง ทำให้ราคาสินค้าและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก

 

ประเทศไทยเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดี IMF ประเมินใน World Economic Outlook ระบุว่าไทยอยู่ในกลุ่มประเทศเงินเฟ้อต่ำที่สุดในโลก และคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อไทยปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.5% เป็นลำดับที่ 163 จาก 192 ประเทศ 
 

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์

สำหรับราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคไม่ได้ราคาขึ้นทั้งหมด มี 3 กลุ่มคือ 1.ราคาสูงขึ้น 2.ราคาทรงตัวและ 3.ราคาลดลง กลุ่มที่ตรึงราคาคือสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภค-บริโภค 18 หมวด น้ำอัดลมที่มีข่าวว่าจะขึ้นราคายังไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่ปรับระบบบริหารจัดการภายใน ราคาขายปลีกยังซองละ 6 บาทคงเดิม

 

และค่าขนส่งแพลตฟอร์มต่างๆยังไม่มีการปรับขึ้น และหลายตัวที่ราคาลดลง เช่น ATK ลดลง 30% ข้าวสารถุง ลดลง 7% เครื่องใช้ไฟฟ้าลดราคา 10-70% ชุดนักเรียน เครื่องแต่งกายรองเท้าลดราคาลงในโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน และมีการจัดต่อเนื่อง


แต่มีหลายตัวที่ราคาปรับสูงขึ้น เช่น น้ำมันปาล์มขวด เพราะต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มขวดสูงขึ้น เพราะมีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 ส่วน 1.เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมัน 2.ผู้ประกอบการโรงสกัดโรงกลั่นและ3.ผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาแบบ วิน-วินโมเดล ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน กำหนดโครงสร้างราคาและขอความร่วมมือลดราคา

 

เราทำสำเร็จราคาต่ำกว่าราคาโครงสร้าง และใช้นโยบายเชิงรุกและเชิงลึกแก้ปัญหาราคาสินค้าตั้งแต่ต้น กำกับราคาสินค้าให้สมดุลกับทุกฝ่าย ทำให้สามารถกำกับตัวเลขเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำได้

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์

เรื่องปุ๋ยซึ่งแพงขึ้นจริงกระทบเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จับมือกันช่วยกันแก้ปัญหาทำได้สำเร็จในระดับหนึ่ง ปุ๋ยต้องแก้ปัญหา 2 ข้อ 1.เรื่องราคาไม่ให้ค้ากำไรเกินควร 2.ปริมาณไม่ให้ปุ๋ยขาดแคลน

 

ซึ่งเรากำกับปริมาณให้เพียงพอต่อการใช้ของเกษตรกรในประเทศ ซึ่งปุ๋ยต้องนำเข้า 100% ราคาขึ้นอยู่กับตลาดโลกซึ่งปุ๋ยผลิตจากน้ำมัน และค่าขนส่งก็ใช้น้ำมันทำให้ราคาแพงขึ้นทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบราคาปุ๋ยกับหลายประเทศในโลกพบว่าราคาปุ๋ยบ้านเราต่ำกว่าหลายประเทศในโลก

 

วันที่ 11 พ.ค.65 ธนาคารโลกทำตารางเปรียบเทียบราคาปุ๋ยของโลก พบว่าราคาปุ๋ยเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้น 30% แต่ราคาปุ๋ยของไทยเพิ่มขึ้น 5.9%ต่ำกว่าอัตราเพิ่มเฉลี่ยของโลก และเดือน เม.ย.65 เทียบกับปี 64 ราคาปุ๋ยโลกเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 80% ประเทศไทยเพิ่มขึ้น 25.7%

 

ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯและผู้นำเข้าปุ๋ย จัดปุ๋ยราคาถูก 4.5 ล้านกระสอบถูกกว่าราคาตลาด 20-50 บาทต่อกระสอบ ซึ่งจบโครงการแล้ว และกำกับราคาปุ๋ยไม่ให้ปรับขึ้น ทำให้ผู้นำเข้าจะหยุดนำเข้า และหากปล่อยไว้ต้องมาแก้ปัญหาปุ๋ยขาด จึงต้องสร้างสมดุลทั้งราคาและปริมาณให้นำเข้าได้

 

จึงพิจารณาต้นทุนประกอบด้วย1.ต้นทุนนำเข้า2.ต้นทุนการแบ่งบรรจุหีบห่อ 3.การบริหารจัดการค่าการตลาด 4.กำไร ซึ่งโครงสร้างใหม่จะน้อยกว่าโครงสร้างเดิม ปี 64 ทำให้นำเข้าปุ๋ยเพิ่มขึ้น จึงไม่ขาดแคลนเหลือเรื่องราคา ไม่ให้ค้ากำไรเกินควรและเกินราคา

 

ตนได้สั่งการติดตามโดยเคร่งครัด ถ้าพบจะดำเนินคดีจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และในอนาคตกระทรวงพาณิชย์ โดยตนได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เจรจาผู้ส่งออกปุ๋ยรายสำคัญของซาอุดิอาระเบียซื้อปุ๋ยราคาพิเศษจาก บริษัทยักษ์ใหญ่

 

ลำดับ 1 คือบริษัทซาบิคและลำดับ 3 บริษัทมาเด็น เจรจากับฝ่ายไทยเตรียมผู้นำเข้าหารือเจรจาปุ๋ย 3 ประเภท 1.ปุ๋ยยูเรีย 2.แอมโมเนียมฟอสเฟต 3.ฟอสเฟต รวม 800,000 ตัน จัดให้มีการพบปะกันในสัปดาห์หน้าและมีแผนเจรจาซื้อปุ๋ยราคาพิเศษกับประเทศอื่นๆไม่เว้นแม้แต่กับรัสเซีย ถ้าได้ราคาดีที่สุด

 

และเพื่อนสมาชิกอภิปรายว่ารัฐบาลนี้เข้ามาดูแลบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจปรากฏว่าเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดับสนิททุกตัวไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวการส่งออก ซึ่งจากขาวเป็นดำ การท่องเที่ยวอาจจะจริงจะโทษท่านนายกไม่ได้เพราะเป็นทั่วโลกจากการปิดประเทศ


สินค้าประกันรายได้

เมื่อเปิดประเทศเมื่อไหร่มั่นใจว่าการท่องเที่ยวไทยเดินได้ทันที สำหรับการส่งออกถ้าบอกว่าเครื่องยนต์ส่งออกดับสนิท ตนว่าผิดโดยสิ้นเชิง เพราะช่วงโควิด วิกฤตเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าอเมริกา-จีน และสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถผลักดันการส่งออกฝ่าวิกฤตไปได้อย่างงดงามเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและ GDP ในช่วง 1-2  ปีที่ผ่านมา ปี 64 ส่งออก +17.1% นำเงินเข้าประเทศ 8.5 ล้านล้านบาท

 

และปีนี้ 4 เดือนแรก ม.ค.-เม.ย. ตัวเลขส่งออก +13.7% นำเงินเข้าประเทศ 3.2 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าปีนี้จะทำให้ได้มากกว่าปีที่แล้วอย่างน้อย 500,000 ล้านบาท รวมเป็น 9 ล้านล้านบาท การส่งออกยังเป็นตัวจักรขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศไม่ใช่ดับสนิทอย่างที่เพื่อนสมาชิกเข้าใจ

 

และที่บอกว่าเรื่องโลกกำลังเผชิญวิกฤติอาหารขาดแคลนนี่คือโอกาสทองของสินค้าเกษตรไทย ไม่เห็นรัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้เลย ซึ่งไม่จริงรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง กระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงหนึ่งที่ติดตามเรื่องนี้โดยตลอดแต่จะคิดเพียงจัดส่งสินค้าไปขายอย่างเดียวไม่พอ

 

รัฐบาลคิดกว้างกว่านั้น กระทรวงพาณิชย์คิดไกลกว่านั้น ต้องมองทั้ง 2 ด้าน ขณะที่เห็นว่าเป็นโอกาสในการส่งออกอาหารไปทั่วโลกต้องดูด้วยว่าถ้าส่งออกเพลินสต๊อกอาหารของไทยไม่พอใช้ เกิดวิกฤติขึ้นมาจะแก้ปัญหาอย่างไร ต้องดู 2 ด้าน 1.สต๊อกอาหารในประเทศต้องเพียงพอก่อน 2.ถ้าเหลือจึงส่งออก ผ่านมาใช้หลักนี้เช่น ปาล์มตอนนี้ส่งออกเยอะมาก

 

แต่ถ้าส่งออกมากจะขาดแคลนจึงตั้งอนุกรรมการ 5 ฝ่าย ติดตามให้สต๊อกน้ำมันปาล์มบริโภคสำหรับคนไทยถ้าเหลือจึงส่งออก แบบวิน-วินโมเดลและรัฐบาลให้ความสำคัญในยามที่โลกขาดอาหาร เราดำเนินการตั้งแต่ต้น กำหนดสินค้าอาหารเป้าหมายที่จะส่งไปขายในต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น 1.กลุ่มข้าว แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง ทดแทนข้าวสาลีที่ปลูกมากในรัสเซีย-ยูเครน


2.น้ำมันปาล์ม 3.กลุ่มน้ำตาลทราย 4.ไก่แปรรูป บุกตลาด 27 ประเทศสำคัญโดยเฉพาะตลาดใหม่ ทำให้การส่งออกอาหาร 4 เดือนแรก 65  ทำเงินเข้าประเทศ 2.3 แสนล้านบาท ข้าวส่งออก +36% แป้งข้าวเจ้า +6.1% น้ำมันปาล์ม +296% น้ำตาล +170% ไก่แปรรูป+23% เป็นต้น

 

และตนสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์วิเคราะห์ตลาด ประเทศห้ามส่งออกอาหารและวัตถุดิบจะกระทบประเทศไทยตรงไหน พบว่าประเทศที่ห้ามส่งออกอาหารส่วนใหญ่เป็นประเทศที่เราไม่ได้นำเข้าจากเขาอยู่แล้วในปัจจุบันหรือนำเข้าน้อยมากยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทยในปัจจุบันและตนสั่งการให้เฝ้าระวังจากมาตรการเร่งรัดการส่งออก

 

ส่วนใหญ่มีผลให้ราคาพืชผลการเกษตร ยุคนี้ดีทุกตัว ที่ห่วงว่าปีนี้จีนปิดด่านส่งออกไม่ได้ ตนเข้าไปแก้ปัญหาเชิงรุกและเชิงลึก จึงปรับปีนี้ส่งออกทางเรือมากขึ้นปัญหาน้อยมากและจะหมดฤดูผลไม้แล้ว ขอให้สบายใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกรและในยามที่โลกขาดแคลนอาหาร เรานำอาหารส่งออกช่วยเกษตรกรนำเงินเข้าประเทศ

 

และเรื่องข้าวที่เพื่อนสมาชิกอภิปรายว่ารัฐบาลจัดงบแบบสิ้นหวังเรื่องข้าว รัฐมนตรีพาณิชย์ต้องหัดขายข้าวบ้างและรู้จักขายกลิ่น ขายรสชาติ ขายสีสันและคุณประโยชน์ของเมล็ดข้าวบ้าง ไม่ใช่ขายแต่แบบเดิมๆ ไม่งั้นไม่มีทางสู้เวียดนาม จีนได้ 

 

ทั้งหมดนี้เป็นความปรารถนาดีแต่รัฐบาลทำอยู่แล้วและทำอย่างมีแผนยุทธศาสตร์ข้าวจึงเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและบังคับใช้แล้วตั้งแต่ปี 63-67 ประเด็นสำคัญเรามีจุดอ่อนเรื่องความไม่หลากหลายของพันธุ์ข้าว 5 ปีนี้ ต้องเพิ่มพันธุ์ข้าวให้ได้อย่างน้อย 12 สายพันธุ์ แต่ไม่ถึง 5 ปี

 

ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จัดประกวดเมล็ดพันธุ์ข้าว ได้ 6 สายพันธุ์แล้ว และไทยส่งเมล็ดพันธุ์ที่มีทั้งกลิ่นและรสชาติ สีสันคุณประโยชน์แข่งในเวทีโลกจัดประกวดข้าวโลก 13 ครั้ง ประเทศไทยได้แชมป์โลก 7 ครั้ง

 

และในรัฐบาลนี้ได้ 2 ปีซ้อน และข่าวดีปีนี้ผู้จัดประกวดข้าวโลกจากอเมริกา โดยนิตยสาร The Rice Trader มาพบตนและร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและกระทรวงพาณิชย์จะจับมือกันจัดในประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ต วันที่ 15-17  พ.ย. จะมีผู้ซื้อขายเข้าร่วมงานนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คนจากทั่วโลกนอกจากโปรโมทการท่องเที่ยวอันดามันแล้ว

 

จะทำให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นในโลก ปีที่แล้วข้าวส่งออกได้ 6.1 ล้านตัน แต่ปีนี้จะส่งออกข้าวได้มากขึ้นเพราะความหลากหลายของพันธุ์ข้าว ราคาที่แข่งขันได้ ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 7-8 ล้านตัน ในปีนี้จะช่วยให้ราคาข้าวดีขึ้น

นโยบาย  Soft Power

สุดท้ายเรื่อง Soft Power ที่จะอภิปรายว่างบปี 66 ไม่ตอบโจทย์นโยบาย  Soft Power ความจริงรัฐบาลให้ความสำคัญกับ  Soft Power ตนกำหนดเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ตั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ซึ่งมี  Soft Power อยู่ในนั้นด้วย

 

กระทรวงวัฒนธรรมทำหน้าที่อนุรักษ์สืบสาน  Soft Power กระทรวงพาณิชย์ตนสั่งเป็นนโยบายตั้งแต่ปลายปีที่แล้วให้กรมส่งเสริมการการค้าระหว่างประเทศ ทำแผนส่งออก  Soft Powerต่อไปต้องส่งออก  Soft Power มีการกำหนดแผนส่งออก 4 สินค้าหลัก

 

1.อาหารกับร้านอาหารไทยในต่างประเทศ 2.สุขภาพความงาม 3.สินค้าที่มีลักษณะสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย 4.ดิจิทัลคอนเทนท์ ภาพยนตร์ ละคร เกมส์ อนิเมชั่นใส่ความเป็นไทย  Soft Power กำหนด 3 กิจกรรมใหญ่ 1.อบรมให้ความรู้พัฒนาผู้ประกอบการทุกภาค

 

2.พัฒนาสินค้าให้มีเรื่องราว 3.การเปิดตลาดที่ชื่นชอบอัตลักษณ์ไทยทั้งจีน สหรัฐฯ อาเซียนหรือเอเชียตะวันออก เพื่อให้เห็นภาพว่ารัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ตอบโจทย์การจัดงบประมาณในปีนี้อย่างไร