วันนี้ (18 พ.ค.65) ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ MORNING NATION ช่อง Nation TV 22 ถึงทิศทางการขัยเคลื่อนพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า ทำงานมากว่า 4 เดือน คนเริ่มรู้จักพรรคมากขึ้น เราเริ่มลงพื้นที่ ได้เสียงตอบรับดี มีคนสนใจพูดคุยกับเรามากขึ้น
“ลงไปนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี โดยรวมการตอบรับความสนใจที่มีต่อพรรคที่ดี ประชาชนพี่น้องอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเรื่องปากท้องการทำมาหากิน และเศรษฐกิจ”
ส่วนจะมีการเปิดตัว ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เมื่อไหร่นั้น ดร.อุตตม ชี้แจงว่า คงไม่ใช่ว่าเปิดไม่ได้ ต้องดำเนินการตามขั้นตอน พรรคสร้างอนาคตไทยหารือภายในมาตลอด มีความเห็นตรงกันที่จะเชิญ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามาทำงานร่วม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เมื่อมีการเลือกตั้ง ส่วนขั้นตอนการจะไปเชิญเมื่อไหร่อย่างไร ค่อยว่ากัน คาดว่าดร.สมคิด จะตัดสินใจในไม่ช้า ในรูปแบบที่จะเหมาะสม
เมื่อถามว่าประสบการณ์การทำงานของ ดร.สมคิด ที่ผ่านมา จะสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่
ดร.อุตตม ตอบว่า คิดว่าทำได้ เพราะ ดร.สมคิด ด้วยประสบการณ์ทำงานสร้างมา และพรรคอยากเป็นเป็นพื้นที่เปิด พรรคเปิดระดมคนหลายรุ่น ทั้งกลุ่มวัยอายุและความคิด
“สิ่งที่เราเสนอกับประชาชนคือ ทีมที่ทำงานเป็น สถานการณ์ในวันนี้คนรอไม่ได้ ประชาชนอยากเห็นทีมที่เข้ามาแล้วทำงานได้จริง มีนโยบายที่ตอบโจทย์ อันนี้เป็นสิ่งที่เราจะสื่อสารกับคนทุกกลุ่ม ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นและเข้าใจ”
เมื่อถามว่านโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทย จะทำอย่างไรให้ดูไม่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกันกับ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดร.อุตตม ชี้แจงว่า มีความชัดเจนแน่นอน ได้พูดไปแล้วบางส่วนนโยบาย 5 สร้าง ซึ่งเป็นพื้นฐานของกรอบนโยบายพรรค ยังไม่ใช่ทั้งหมด
“5 สร้างคือ เราจะสร้างอนาคตของประเทศอย่างไร รวมถึงจะก้าวพ้นวิกฤติในปัจจุบันได้อย่างไร แบบเป็นรูปธรรม ไม่มีซ้ำและไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ผมเชื่อว่าเราสามารถเสนอแนวทางของพรรคได้อย่างชัดเจน แน่นอนความคล้ายคลึงก็คงมีบ้าง แต่ของเราเน้นนโยบายตรงเป้าและทำได้ทันที โดยคนซึ่งมีประสบการณ์และแนวคิดของคนรุ่นใหม่มาเสริม”
เมื่อถามว่าจริงหรือไม่ที่มีการแย่งชิงผู้สมัคร ส.ส.ที่ทับซ้อนกัน ดร.อุตตม ตอบว่า เป็นธรรมชาติของการเมือง โดยเฉพาะการเมืองที่กำลังเคลื่อนไปสู่การเลือกตั้ง จะมีพรรคการเมืองที่ได้รับความสนใจ หรือได้พูดคุยกับผู้ที่สนใจสมัคร ส.ส. มันก็คงต้องมีที่ไปทับซ้อนกันบ้าง
ส่วนของพรรคเองก็ได้รับการติดต่อมามากพอสมควร ส่วนหนึ่งเราได้เริ่มดูว่าผู้ที่แสดงเจตนามาทำงานให้เรา พื้นที่ไหนน่าจะเหมาะ ขณะเดียวกันคนมาพูดคุยเพิ่มบางส่วนก็ซ้ำกับที่เราเริ่มจัดคนก็ไม่เป็นไร
“เรามีกระบวนการที่เปิดโอกาสให้คนที่สนใจมาทำงานอย่างเต็มที่ และพรรคก็มีกลไกลตั้งแต่ระดับพื้นที่ภาคขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมที่สุด”
ส่วนที่แต่ละพรรคตั้งเป้าไว้แล้วว่าเลือกตั้งรอบหน้า จะได้ ส.ส.เท่าไหร่ แล้วพรรคสร้างอนาคตไทย เท่าไหร่ดี ดร.อุตตม ตอบว่า กำลังดูเรื่องตัวบุคคล ยังไม่ได้พูดถึงเป้าที่ชัดเจน แต่เชื่อมั่นว่า จะสามารถทำได้ในจำนวนที่ทำให้เราเป็นพรรคที่มีนัยยะ ในการเข้าไปทำงานให้พี่น้องประชาชน
แต่ยอมรับคงไม่ใช่พรรคใหญ่ เราก็อยู่บนความเป็นจริงของพรรค และมีเป้าหมายชัดเจน แต่ละพื้นที่จะทำอย่างไรให้ตัวเลข เป้าหมายเป็นไปตามนั้นอย่างไร เรากำลังทำงานเข้มข้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ส่วนตัวพรรคสามารถสร้างกระแสให้กับผู้สมัครได้ขนาดไหน ถ้าเราทำงานของเราเข้าเป้า
เมื่อถามว่าพรรคอนาคตไทย เป็นพรรคที่เป็นกลาง นั่นหมายความว่า พร้อมจะร่วมงานกับทุกพรรคไม่ว่าจะเป็น พปชร. เอง หรือ แม้แต่เพื่อไทยเองก็ตาม ดร.อุตตม ตอบว่า เมื่อเราพูดว่าเป็นพรรค ทำการเมืองทางสายกลาง สิ่งที่เรามุ่งเน้น คือวันนี้ประเทศมีปัญหามากมาย การเดินทางสายกลาง คือมุ่งอาสามาแก้ปัญหาให้ประเทศ และสร้างพื้นฐานของอนาคตที่ดีต่อไป ถ้าเรามุ่งหวังเช่นนี้ในความหมายก็คือ เราไปไม่ข้องแวะ เราไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง
“เพราะฉะนั้น วันนี้เราไม่พูดว่า เราอยู่ฝ่ายนี้ เราอยู่ฝ่ายโน่น เราไม่เอาใคร ไม่ใช่ เราเดินหน้าของเรา ทำตัวเราให้ดีที่สุด เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้ประชาชน นี่คือความหมายของเรา”
ดร.อุตตม ยังกล่าวย้ำด้วยว่า”เราชัดเจนว่าการเสนอแคนดิเตนายกฯ ต้องเป็นคนของพรรคแน่นอน หนึ่งในนั้นคือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และที่ได้พูดคุยกัน 3 ตำแหน่งนี้หนึ่งในนั้นก็จะเป็นหัวหน้าพรรคซึ่งก็คือผม”