ร้องกกต.ยื่นศาลรธน.ยุบพรรคเพื่อไทยปมส.ส.-นักธุรกิจบินพบ“ทักษิณ”

14 มี.ค. 2565 | 05:29 น.

“ศรีสุวรรณ”ร้องกกต.ยื่นศาลรธน.ยุบพรรคเพื่อไทย ปมส.ส.-นักธุรกิจโรงสีข่าวยโสธร บินลัดฟ้าไหว้ “ทักษิณ”  หวังได้ลงเลือกตั้งครั้งหน้า แจงไม่ยื่นกมธ.จริยธรรม เหตุไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม เป็นส.ส.ด้วยกันอาจไม่กล้าลงโทษ

วันนี้(14 มี.ค.65)  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบและเสนอศาลรัฐธรรมนูญ (ศาลรธน.) สั่งยุบพรรคเพื่อไทย(พท.)  กรณีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ภาคอีสาน นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพลลภ ส.ส.อุบลราชธานี เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเข้าข่ายขัดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 28 ที่ห้ามมิให้บุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการใดที่เป็นการควบคุม ชี้นำ ครอบงำ การดำเนินกิจกรรมของพรรคไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม ที่อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 92 (3) มีโทษถึงขั้นยุบพรรค

 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากนายเกรียง และนายชูวิทย์ ที่เดินทางไปพบนาทักษิณ แล้ว ยังมีส.ส.พรรคเพื่อไทยคนอื่นไปร่วมด้วย รวมถึงนักธุรกิจโรงสีใหญ่ใน อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งเป็นพี่ชายส.ส.เพื่อไทย จ.ยโสธร และเป็นเพื่อนของอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าไปคุกเข่า พนมมือ ยกมือไหว้ นายทักษิณ ซึ่งนักธุรกิจคนดังกล่าวมีกระแสข่าวว่า ต้องการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

อย่างไรก็ตาม การที่นักธุรกิจคนดังกล่าวอ้างว่าเดินทางไปพบปะพูดคุย ธรรมดา สังคมไม่เชื่อ รวมถึงที่อ้างว่าจองตั๋งล่วงหน้าไปเป็นปี ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญคือ มีการนัดแนะพบปะกันล่วงหน้า 
ประกอบกับก่อนหน้านี้มีการวีดีโอคอลกับนายเกรียง ในงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อหลายเดือนก่อน จึงถือว่าเป็นกรณีที่เชื่อมโยงกับกรณีที่ก่อนหน้านี้ ตนได้ยื่นร้องให้ตรวจสอบคลิป การวีดีโอคอลในงานเลี้ยงวันเกิดของนายเกรียง และกกต.ได้ให้ตนมาให้ข้อมูลแล้ว 

 

แม้ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ แต่พฤติการณ์และการกระทำของพรรคเพื่อไทยยังเป็นเช่นเดิม คือ ให้นายทักษิณ ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เป็นสมาชิกพรรคเข้าชี้นำ ครอบงำ ซึ่งถ้าหากกกต.รับเรื่องไป และวินิจฉัยว่ามีความผิด ก็จะมีโทษถึงขั้นยุบพรรค

 “ไม่ใช่เฉพาะผมไม่เชื่อว่าเป็นการพบปะกันโดยบังเอิญ แต่คนไทยทั้งประเทศซึ่งไม่ได้กินแกลบ กินหญ้า คงไม่เชื่อว่าเป็นการพบกันโดยบังเอิญ เพราะเรื่องเหล่านี้สามารถนัดหมายกันได้อยู่แล้ว แน่จริงให้เอาเบอร์โทรศัพท์มาโชว์ว่าเมื่อ 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ คุณได้คุยโทรศัพท์ไปต่างประเทศ ไปดูไบหรือไม่”นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า คงจะไม่นำเรื่องนี้ไปร้องต่อกรรมาธิการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร เพราะเคยร้องกรรมาธิการจริยธรรม กับส.ส.หลายคน แต่ก็ไม่ได้ปรากฏผลเป็นรูปธรรม เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะส.ส.ด้วยกัน การทำงานก็อาจจะลูบหน้า ปะจมูก ไม่กล้าที่จะลงโทษใดๆ ทั้งที่ความผิดของส.ส.ที่ตนร้องไป เป็นที่รับรู้ของสาธารณชน 

 

ขณะเดียวกันป.ป.ช.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เอาผิดเรื่องจริยธรรมโดยตรง กลับมีการเอาผิด และเสนอลงโทษส.ส.ไปหลายคนแล้ว ผิดกับคณะกรรมาธิการจริยธรรมของสภาฯ ที่ไม่มีผลงานอะไรเลย ตนจึงไม่ให้ความสนใจกับคณะกรรมาธิการจริยธรรมของสภาฯ ชุดนี้อีกต่อไป