กกต. จ่อคัดคำวินิจฉัยศาล รธน. ประกอบพิจารณายุบ “พรรคก้าวไกล”

11 พ.ย. 2564 | 08:04 น.

เลขาฯ กกต. เตรียมคัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีล้มล้างการปกครอง ประกอบพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ระบุมีข้อเท็จจริงค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลา

วันที่ 11 พฤศจิกายน  2564 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องของ นายณฐพร โตประยูร ที่ขอให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล จากกรณีแสดงความเห็นทางการเมือง ยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการไต่สวนของสำนักงานฯกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งมีข้อเท็จจริงค่อนข้างมาก จึงต้องใช้เวลา

โดยล่าสุดทราบว่าอยู่ระหว่างให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า 3 แกนนำกลุ่มราษฎร กระทำการล้มล้างการปกครองฯ ทางสำนักงาน จะขอคัดคำวินิจฉัยดังกล่าวเพื่อนำมาพิจารณาว่ามีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับที่มีการร้องหรือไม่อย่างไร


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.

 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2564นายณฐพร โตประยูร อดีตประธานที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล ด้วยอ้างอิงการกระทำผิดที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3)

 

โดยอ้างอิงถึงพฤติการณ์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรค รวมถึง ส.ส.ของพรรค ที่สนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1-2 ของไอลอว์, การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ไปประกันตัวผู้ต้องหาคดี มาตรา 112

 

สำหรับมาตรา 45 กำหนดว่าห้ามไม่ให้พรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำการส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลและทำอันดีของประชาชนหรือกระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

 

และมาตรา 92 กำหนดว่าเมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามบัญญัติไว้ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น โดย (2) การกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ (3) การกระทำฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง, มาตรา 28, มาตรา 30, มาตรา 36, มาตรา 44, มาตรา 45, มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74 ดังมีข้อเท็จจริงข้อกฎหมายและพยานหลักฐาน