กกต.จ่อรับรอง "อิสรพงษ์ มากอำไพ”ส.ส.ชุมพรไปก่อน สอบเพิ่มปมทุจริตเลือกตั้ง

08 มี.ค. 2565 | 11:16 น.

กกต.จ่อรับรอง "อิสรพงษ์ มากอำไพ”ผู้ชนะเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 ไปก่อน หลังสั่งสอบเพิ่มปมทุจริตเลือกตั้ง

วันนี้ (8 มี.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการพิจารณาสำนวนเรื่องร้องเรียนกรณีการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังมีการเลือกตั้งไป เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2565 ตามที่สำนักงานกกต.เสนอ 


โดยที่ประชุมเห็นว่า ยังมีความไม่ชัดเจนในสำนวนการสอบสวนกรณีพบผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบัตรที่ลงคะแนนเลือกตั้ง จำนวน 6 ราย และเมื่อนำโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบพบว่า มีการโอนเงินโดยอ้างว่าเป็นการจ่ายเงินซื้อเสียง จึงให้สำนักงานฯ ไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะมาเสนอต่อกกต.อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การสอบสวนดังกล่าวหากไม่แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้าคาดว่า กกต.จะต้องประกาศรับรอง นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ไปก่อน 

 

ทั้งนี้ เนื่องจากในวันที่ 17 มี.ค.2565 จะครบกรอบระยะเวลา 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ที่กฎหมายกำหนดให้กกต.ต้องประกาศรับรองผล 


โดยหลังจากนั้น หากกกต.สอบสวนแล้วพบว่า การกระทำดังกล่าวมีผลให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือ นายอิสรพงษ์ รู้เห็นเกี่ยวข้องสนับสนุน ได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว ก็จะมีมติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาขอให้ สั่งเลือกตั้งใหม่(ใบเหลือง) หรือ สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครและสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) นายอิสรพงษ์ ได้

 


ก่อนหน้านั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต1 ออกมาแถลงว่า  การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 1 จังหวัดชุมพร ได้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา และในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะครบกำหนด 60 วัน หลังมีการลงคะแนนเสียง 


พรรคประชาธิปัตย์มีความวิตกกังวล รวมถึงมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการของ กกต. ต่อผลการเลือกตั้งซ่อมชุมพร คือ 


1.การเลือกตั้งเสร็จสิ้นมาเกือบ 60 วันแล้ว แต่กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 


2.ทราบเป็นการภายในมาว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า มีการถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งในคูหาในวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อมชุมพร และมีการตรวจยึดโทรศัพท์ของชาวบ้านที่มาลงคะแนนเสียง แล้วอ้างจากพยานหลักฐานว่า มีการโอนเงินให้กัน ซึ่งในการโอนเงินให้กันนั้นเป็นเรื่องระหว่างญาติพี่น้อง ไม่เกี่ยวข้องกับ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ มาจนถึงวันนี้การสรุปสำนวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการส่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว แต่ไม่ได้มีการกล่าวหานายอิสรพงษ์ แต่อย่างใด

“ในส่วนของกกต. มีเหตุผิดปกติเกิดขึ้นคือ เท่าที่ทราบ กกต.ประจำจังหวัดชุมพร ได้สรุปสำนวนส่งมายัง กกต.ส่วนกลางครั้งหนึ่ง แต่ไม่มีการชี้ลงไปว่า ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ กระทำความผิดหรือไม่อย่างไร เพราะในการสอบของ กกต. ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงกับผู้สมัครส.ส.ของเรา 

 

แต่เมื่อมีการส่งมายังส่วนกลาง ปรากฏว่า มีการขอจากส่วนกลางให้ กกต.ชุมพร สรุปสำนวนส่งมาใหม่ และให้มีความเห็น สิ่งที่เรากังวลคือ เราสงสัยว่า มีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจฝ่ายใดไปแทรกแซงกกต.หรือไม่ เนื่องจากการที่ให้สรุปสำนวนส่งไปอีกครั้ง มันส่อถึงความผิดปกติ เรากำลังสงสัยว่า มีการตั้งธงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีอำนาจหรือไม่ ขอให้กกต.ดำเนินการตามกรอบกฎหมาย พยานหลักฐานที่ถูกต้อง”

 

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ถ้าไม่เช่นนี้แล้ว ต่อไปมีการเลือกตั้ง กกต. ก็สามารถจะใช้คำว่า มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานใดๆ เกี่ยวโยงกับ นายอิสรพงษ์ จะทำให้เสียกระบวนการทำงานของ กกต. 

 

“กรณีนี้มีเหตุผิดปกติมาตลอดทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง มีการใช้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จำนวนมาก เสมือนกับว่า มีความพยายามเอาชนะให้ได้ ทราบมาว่า กกต.กำลังมีการประชุมภายใน1-2 วันนี้ เพื่อสรุปสำนวน ถ้าผลออกมาแล้วผิดปกติ ทางฝ่ายกฎหมายของทั้งตัวผู้สมัครส.ส.ของเรา และฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ จะติดตามการทำงานของกกต. ถ้ามีการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย ก็อาจพิจารณาฟ้องร้องกกต.ต่อไป”
 

นายสาทิตย์ แสดงความมั่นใจว่า หากกรณีนี้มีการให้ใบเหลืองจริงผิดปกติแน่นอน เพราะฝ่ายกฎหมายของผู้สมัครเรายืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวของ ในวันเกิดเหตุยังไปแจ้งความด้วยซ้ำเพื่อเป็นหลักฐานว่า ไม่เกี่ยวข้อง 

 

“หากจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่หรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูผลก่อนว่า ออกมาอย่างไร พรรคก็พร้อม เรามั่นใจคนชุมพรยังให้โอกาส ให้ความเป็นธรรมอดีตส.ส.ลูกหมี จะเห็นได้ว่าคะแนนขาดกันเยอะมาก ทั้งที่มีการใช้อำนาจรัฐเต็มรูปแบบ คนชุมพรจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม อดีตส.ส.ลูกหมีไม่ได้รับความเป็นธรรม พรรคก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม ยิ่งถ้าผลของกกต.ออกมาแล้วส่อผิดปกติ ก็จะยิ่งเห็นกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมมากขึ้นอีก มันแปลกนะ พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ” นายสาทิตย์ ระบุ