ก้าวไกล ปูด ‘ไอ้โม่ง’ ต้นเหตุทำหมูแพง นั่งข้าง"บิ๊กตู่"

17 ก.พ. 2565 | 09:28 น.

"ปดิพัทธ์" ปูด ‘ไอ้โม่ง’ ต้นเหตุปกปิดโรคระบาด ASF ทำหมูแพง นั่งอยู่ข้าง ‘บิ๊กตู่’ ชี้หากทำไม่ได้ยุบสภาลาออกไป

วันที่ 17 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายถึงการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จนส่งผลให้หมูมีราคาแพงในประวัติศาสตร์ ว่าราคาหมูแพงมาตลอดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และแพงสุดในเดือนมกราคม 2565 อีกทั้งในเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็เป็นวันที่กรมปศุสัตว์ยอมรับว่ามีโรคระบาด ASF และมีการตรวจสอบการกักตุนเนื้อหมูในห้องเย็น หากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตรงจุดนี้เชื่อว่าราคาหมูอาจทะลุถึง 300 บาทได้

 

แต่รัฐบาลกลับออกมาเคลมว่าสามารถแก้ได้ถูกจุด ซึ่งตนมองว่าเป็นละครตบตาคนไทยทั้งประเทศ เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบมานานแล้วว่ามีโรคระบาด แต่ท่องตามโพยว่าไม่มีโรคระบาด ทั้งที่ความเสียหายได้เกิดขึ้นในฟาร์มขนาดเล็ก เกษตรกรเจ๊ง ส่วนกลุ่มทุนใหญ่นั้นไม่กระทบกระเทือน ได้กำไรมหาศาล การส่งออกทะลุเป้าหมาย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดรัฐบาลจึงปกปิดข้อมูล เพราะหากประกาศโรคระบาดนี้ตอนต้นปี 64 ยังพอรับได้

 

แต่ปี 64 จนหมูพังพินาศกลับบอกว่าไม่มีโรคระบาด หากไม่รับผิดชอบก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร หากเราไม่ทำอะไรสักอย่างกับสถานการณ์นี้ ปล่อยให้รัฐบาลและกรมปศุสัตว์ปกปิดข้อมูลแบบนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือทุนใหญ่จะกินรวบ ผูกขาดการผลิตเนื้อหมูทั้งหมด เพราะโรคระบาดทำลายฟาร์มเล็ก ฟาร์มขนาดกลางไปหมดแล้ว ทุนใหญ่จะเข้ามาควบคุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และจะควบคุมได้ไปยังแผงขายในตลาดสด เพราะปกติต้องมีทุนเล็ก กลาง และย่อย เพื่อถ่วงดุลราคา แต่ตอนนี้มันกินรวบเบ็ดเสร็จ

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า หากระบบกรมปศุสัตว์เป็นแบบนี้ การระบาดของโรคอุบัติใหม่จะเกิดขึ้นซ้ำอีกทุกปี เพราะมีวงจรอุบาทว์ของการปกปิดข้อมูลเหมือนเดิม 3 เจอ 3 โรคจากแอฟริกา รวมแล้ว 5 หมื่นล้านบาท อยากบอกนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีนี้เตรียมเจอโรคไข้หวัดนกได้เลย และวงการวิชาชีพสัตวแพทย์จะหมดความน่าเชื่อถือและทำให้มาตรฐานตกต่ำทั้งระดับประเทศและนานาชาติ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล


“อยากถามนายกรัฐมนตรีว่าจะรับผิดชอบการปกปิดข้อมูล การละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ความฉ้อฉลของกรมปศุสัตว์ที่ทำให้ประเทศเสียหายอย่างไร คุณประยุทธ์บอกให้ผมเอาไอ้โม่งออกมา ก็นั่งอยู่ข้างๆ กัน หากหาไอ้โม่งไม่เจอ นายกฯก็ไปส่องกระจกว่านี่คือความรับผิดชอบของท่าน”
 

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะชั่งน้ำหนักระหว่างการประกาศราคากับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรอบคอบและโปร่งใส โดยเสนอทางออก คือต้องแก้ปัญหาด้วยการวิจัย ศึกษาแนวทางวงจรการผลิตระบบนิเวศทั้งหมดของการกระจายสุกรและผลิตภัณฑ์สุกร วางแผนมาตรฐานการฟื้นฟูและพัฒนาฟาร์มรายย่อย รวมไปถึงการสนับสนุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ปี เพื่อให้เกษตรกรนำไปปรับปรุงฟาร์ม ส่งเสริมการพัฒนาวัคซีน ASF โดยหากได้ผลจะต้องมีแผนการใช้วัคซีนที่ชัดเจน

 

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลจะทำให้ประเทศไทยมีอนาคต หากรัฐบาลคิดและนำไปทำจะเป็นประโยชน์ ถ้าไม่ทำแล้วยังขวางก็ออกไป ยุบสภาแล้วให้ประชาชนเลือกรัฐบาลชุดใหม่