วันนี้ (18 ม.ค.65) จากกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อถกเถียงระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เรื่องการปลูกกัญชาถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ โดยได้คุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ได้ยินว่าผู้เกี่ยวข้องกำลังหารือว่าจะแก้ปัญหา จึงอยากให้ประชาชนควรชะลอการปลูกไปก่อนนั้น
นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะแทนที่ นายวิษณุ จะแนะนำตำรวจ หรือ ป.ป.ส.ให้อยู่เฉยๆ อย่าเพิ่งไล่จับกุมชาวบ้าน กลับมาบอกว่าให้ชาวบ้านอยู่นิ่งๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชาวสุราษฎร์ธานีถูกศาลตัดสินจำคุก 2 เดือน และปรับอีก 1 หมื่นบาท รอลงอาญา มีนักการเมืองคนไหนไปจ่ายค่าปรับแทนชาวบ้านบ้าง จากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข และป.ป.ส.ที่ไม่ออกประกาศตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่
“แบบนี้เข้าข่ายเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 หรือไม่ ประชาชนสงสัยกันมากว่า ทั้ง 2 หน่วยงานนี้มัวแต่รออะไรอยู่ ที่ยังไม่ยอมออกประกาศให้กัญชาหลุดพ้นจากบัญชียาเสพติด ทั้งที่มีกฎหมายบัญญัติไว้อย่างชัดเจนแล้ว ความเดือดร้อนจึงต้องมาตกที่ประชาชนจากการถูกจับกุมทุกวัน”
จึงขอเรียกร้องให้ชาวบ้านปลูกกัญชาเพื่อเป็นสมุนไพร ยารักษาโรคพื้นบ้าน โรคเครียด โรคเบาหวาน โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางราชการให้ยุ่งยากต่อไป เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องช่วยตอบจดหมายข้อเรียกร้องของผู้แทนนอกสภาด้วย
“ผมได้ยื่นไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ขอให้สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหยุดดำเนินคดีกับชาวบ้าน หรือ นิติบุคคลที่ปลูกกัญชาเพื่อการปรุงอาหารและรักษาโรคได้บุคคลละ 10 ต้น หรือมากกว่า โดยไม่ต้องขออนุญาตต่อทางราชการแต่อย่างใด รวมทั้งสั่งการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ชะลอการจับกุมชาวบ้าน และประสานสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอสั่งไม่ฟ้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ต่อไป”
นายวัชระ กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนอย่างยิ่งในภาวะสังคมที่มีความเคร่งเครียดสูงและประชาชนเดือดร้อน จากภาวะเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ต้นกัญชา ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อการรักษาโรคและปรุงอาหารโดยไม่ผิดกฎหมายโดยด่วนที่สุด เพราะสารจากใบกัญชาสามารถนำมาดื่มเป็นน้ำชาเพื่อคลายความเครียดและรักษาโรคได้นานาชนิด