“ชินวรณ์- สาทิตย์”นำทีมอภิปราย แก้รธน.ฉบับประชาชน

16 พ.ย. 2564 | 04:09 น.

“ชินวรณ์- สาทิตย์” นำทีมอภิปราย แก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ชินวรณ์ ชี้ ส.ว.มีความจำเป็นต้องกลั่นกรองกฎหมาย และตรวจสอบถ่วงดุล

วันที่ 16 พ.ย. 2564 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรที่ภาคประชาชนเสนอต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า ที่ประชุม ส.ส.ของพรรค ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง รายละเอียดของหลักการและเหตุผล รวมถึงสาระสำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

 

หลักสำคัญคือสนับสนุนหลักการขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ให้ประชาชนสามารถเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ ถือได้ว่าเป็นสิทธิที่สำคัญของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การประชุมเพื่อพิจารณาในวาระที่หนึ่งนั้น พรรคจะรับฟังเหตุและผลของผู้เสนอที่จะได้มีการชี้แจงต่อรัฐสภา พร้อมทั้งจะมีการอภิปรายของ ส.ส.ในส่วนของพรรคด้วยเหตุและผลเช่นกัน อาจจะมีการตั้งคำถามเพื่อสอบถามในหลายประเด็นเพื่อให้ผู้เสนอได้ชี้แจง

                    

 เชื่อว่าทุกเหตุผลของผู้เสนอ สมาชิกรัฐสภาทุกคน จะเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการตัดสินใจในการลงมติในวาระที่หนึ่งหลังจากฟังคำชี้แจงแล้วจะมีการพิจารณาร่วมกันก่อนที่จะมีการลงมติต่อไป

 

นายราเมศกล่าวต่อว่า ส.ส.ของพรรคที่จะมีการอภิปราย นำทีมโดย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จังหวัดตรัง นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.จังหวัดพัทลุง

 

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า การเสนอยุบวุฒิสภาให้เหลือสภาเดี่ยว ในอดีตยังไม่เคยมีการปฏิบัติ เว้นแต่เป็นช่วงเผด็จการจะเหลือสภาเดียว พร้อมเห็นว่าวุฒิสภามีความจำเป็นที่จะต้องทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย และตรวจสอบถ่วงดุลตามอำนาจหน้าที่ที่สมควร และตั้งขอสังเกตว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 การแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรกจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภา 1 ใน 3 แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการเสนอให้ยุบวุฒิสภา ทำให้วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองไม่สิ้นสุด ส่วนตัวจะลงมติรับหลักการหรือไม่ ขอรอฟังความเห็นในที่ประชุมก่อน