“ไทยสร้างไทย”ปักธงภาคเหนือพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกรูปแบบตามกติกา

31 ต.ค. 2564 | 08:09 น.

“ไทยสร้างไทย”ปักธงภาคเหนือ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกรูปแบบตามที่กติกากำหนด ชี้กระแสตอบรับดี เพราะพรรคและนโยบายเข้าถึงประชาชน

 

นายสามารถ แก้วมีชัย สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย จังหวัดเชียงราย ผู้ประสานงานพรรคพื้นที่ภาคเหนือ เป็นประธานเปิดประชุมสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย จังหวัดพระเยา เพื่อแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดพะเยา เขตเลือกตั้งที่ 2 โดยมีสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยเข้าร่วมกันอย่างคึกคัก

 

นายสามารถ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด มีความพร้อมเป็นอย่างมาก โดยมีสมาชิกพรรคทุกเขตเลือกตั้ง และกำลังดำเนินการจัดให้มีตัวแทนพรรคการเมืองการเมืองในแต่ละเขตให้เป็นไปตามที่กฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งกำหนด

 

ดังนั้นไม่ว่ากติกาจะออกมาในรูปแบบใด พรรคไทยสร้างไทยก็พร้อม สำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงอย่างแน่นอน

                     “ไทยสร้างไทย”ปักธงภาคเหนือพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกรูปแบบตามกติกา

 

 

“พรรคไทยสร้างไทย แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ทีมงานเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงในการบริหารประเทศ จึงทำให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เนื่องจากนโยบายของพรรคในด้านต่างๆ ล้วนตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

 

เช่น เรื่องความเสมอภาคด้านการศึกษาของลูกหลาน ที่ต้องจัดให้ได้เรียนฟรี ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบปริญญาตรี  เรื่องระบบหลักประกันสุขภาพที่ได้มาตรฐาน สะดวก ทั่วถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เรื่องการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรให้เกิดความเป็นธรรม  รวมถึงเรื่องการเข้าถึงการรับบริการจากหน่วยงานราชการ ที่ต้องสะดวก รวดเร็ว และเสมอภาคเท่าเทียมกัน

                “ไทยสร้างไทย”ปักธงภาคเหนือพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกรูปแบบตามกติกา

 

และนโยบายสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการของผู้สูงอายุ หลังจากเปิดนโยบายแรกอย่างเป็นทางการ คือ “บำนาญประชาชน เดือนละ 3,000 บาท” ได้รับความสนใจอย่างมากจากพี่น้องประชาชน อีกทั้งทางพรรคมีการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแบบถึงลูกถึงคนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อพรรคไทยสร้างไทยยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ นายสามารถ ยังได้ฝากถึงพี่น้องประชาชน ในฐานะผู้เป็นเจ้าของอำนาจการปกครองประเทศว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ประชาชน ควรจะต้องเรียนรู้องค์ประกอบแต่ละพรรคการเมืองว่า มีโครงสร้างและบุคลากรเช่นไร มีนโยบายอย่างไร สามารถทำได้จริงหรือไม่ ผู้สมัครของแต่ละพรรคการเมือง มีความเข้าใจปัญหาของประชาชนและประเทศชาติมากน้อยเพียงใด เพราะผู้สมัครบางคนอาศัยเพียงกระแสความนิยม แต่สุดท้ายประชาชนก็พึ่งพาอะไรไม่ได้