อภิปรายไม่ไว้วางใจ “ศักดิ์สยาม” โต้ ฝ่ายค้าน ปัดบุกรุกที่ดินเขากระโดง

03 ก.ย. 2564 | 08:11 น.

“ศักดิ์สยาม” แจงอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังฝ่ายค้านซัดบุกรุกที่ดินเขากระโดง ยันมีเอกสารสิทธิถูกต้อง เผยรฟท.ยื่นหนังสือกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ หวั่นพื้นที่ทับซ้อนที่ดินรถไฟ

วันที่ 3 กันยายน 64 เวลา 13.30 น. นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงหลักถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงกรณีบุกรุกที่ดินเขากระโดง  ว่า ยืนยันว่าที่ดินที่อาศัยในเขากระโดงทราบตั้งแต่แล้ว ซึ่งผมเป็นเพียงผู้อยู่อาศัยในที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินที่ออกโฉนด 3466 ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.2515 ขณะนั้นมีอายุเพียง 10 ปี โดยเอกสารสิทธิเป็นการออกตามขั้นตอนกฎหมายของกรมที่ดินโดยสุจริต

อภิปรายไม่ไว้วางใจ “ศักดิ์สยาม” โต้ ฝ่ายค้าน ปัดบุกรุกที่ดินเขากระโดง

 

“ส่วนกรณีภายหลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาและไม่ได้ไม่สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งดำเนินการตามกฎหมายนั้น ตั้งแต่ผมเข้ารับตำแหน่งภายใน ก.ค.62 ผมมีการดำเนินการบริหารพัฒนาที่ดินของโครงการรถไฟ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารพื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆตามนโยบายของรัฐและได้ติดตามจัดการรายได้ทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพในการใช้อสังหาริมทรัพย์ของรฟท. โดยในปี 64 ได้มีหนังสือสั่งการเมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 เรื่องการมอบหมายนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวงคมนาคมได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติภายใต้การบูรณาการและตอบสนองต่อนโยบายแห่งรัฐ พ.ศ.2561-2580” 
 

นายศักดิ์สยาม  กล่าวต่อว่า กรณีรฟท.ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเป็นเพียงการแสดงเพื่อตอบอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทต้องมีการพิสูจน์สิทธิ โดยที่ดินใดมีการพิพาท และประชาชนมีเอกสารสิทธิ เช่น โฉนดที่ดิน ที่ดินสค.1, ที่ดินนส.3,ที่ดิน นส.3ก. มีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องพิสูจน์สิทธิให้เรียบร้อย ประกอบประมวลกฎหมายวิธีการพิจารณาทางแพ่งมาตรา 145 มีการกำหนดว่าคำพิพากษามีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีไม่มีผลผูกพันต่อบุกคนอื่น ทำให้ รฟท.ต้องพิสูจน์สิทธิก่อน ส่วนการยกคำพิพากษามานั้นเป็นกรณที่จำนวนในพื้นที่ที่มีประชาชนบุกรุก 35 ราย ที่ฟ้องกับรฟท. โดยพื้นที่ ทั้ง 5,000 กว่าไรจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายให้เรียบร้อย

 

 

“กรมที่ดินมีคำถามว่ารฟท.ไม่ฟ้องขับไล่ตามความเห็นของอัยการสูงสุด รฟท.ต้องพิจารณาในกรณีที่ประชาชนมีเอกสารสิทธิที่ออกโดยชอบหน่วยงานของรัฐ โดยต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ในการออกเอกสารสิทธิ ซึ่งคือกรมที่ดิน ปรากฏว่าจากคำพิพากษาศาลฎีกาข้างต้น รฟท.มีความเชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิของกรมที่ดินมีความคลาดเคลื่อน ซึ่งมีความจำเป็นให้กรมที่ดินพิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่โดยเพิกถอนเอกสารสิทธิที่มีพื้นที่ทับของรฟท.ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 ต่อไป”
อภิปรายไม่ไว้วางใจ “ศักดิ์สยาม” โต้ ฝ่ายค้าน ปัดบุกรุกที่ดินเขากระโดง

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กณณีที่รฟท.ไม่เรียกเก็บค่าเสียหายในรูปแบบเช่า จำนวน 20 ล้านบาท นั้น เนื่องจากที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินที่รฟท.พิพาทกับประชาชนเป็นเวลานาน การจัดเก็บค่าเช่าของรฟท.จะดำเนินการได้ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ตามขั้นตอนของกฎหมายให้ได้ข้อยุติก่อน ปัจจุบันรฟท.ได้มีหนังสือต่อกรมที่ดินพิจารณาตามกฎหมายแล้ว 

 

 

“ที่ดินอีกแปลงมีจำเลยเป็นเจ้าของ ซึ่งตนไม่ได้สั่งการเร่งรัดรฟท.เป็นเพราะมีความสัมพันธ์กับตนหรือไม่ เมื่อรฟท.ได้รับคำพิพากษากจากศาลฎีกา ทั้งนี้ได้ส่งคำพิพากษาบังคับตามพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาทางแพ่ง พ.ศ 2477 มาตรา 275 และได้ดำเนินการสืบหาหลักทรัพย์และทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งอยู่ภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ที่ดินของตน ที่มีการประเมินราคาที่ดินมูลค่า 20 ล้านบาทและมูลค่าที่ดินเขากระโดงทั้ง 5,000 กว่าไร่ มูลค่าเสียหาย 10,000 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการล่าช้าทำให้รฟท.เสียประโยชน์นั้น ผมไม่ใช่ผู้ครอบครองที่ดิน แต่รฟท.ดำเนินการสำรวจที่ดินโดยพิสูจน์ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ที่ประชาชนอาศัยอยู่”

 

 

สุดท้ายนี้มีการตั้งอภิปรายว่าการดำเนินการของรฟท.ขาดความเท่าเทียมในการใช้กฎหมาย โดยกรณีที่มีการฟ้องร้องผู้บุกรุกในโครงการไฮสปีด3สนามบินกลับดำเนินการรวดเร็ว เป็นเพราะมีบริษัทขนาดใหญ่เป็นผู้รับสัมปทาน “ในฐานะรมว.คมนาคมได้มอบหมายให้รฟท.ติดตามความก้าวหน้าดำเนินการทุกขั้นตอนตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัดและมีเสมอภาคมีความโปร่งใส”