ลูกชายนายพลโบเมี๊ยะติดโควิดเสียชีวิตแล้ว

04 ส.ค. 2564 | 04:43 น.

“ผู้การเตเร” ผู้นำ KNLA PC ลูกชายนายพลโบเมี๊ยะ อดีต ประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ(KNU)  ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตแล้ว 

วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า มีรายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ว่าพันเอก เนโซเมี๊ยะ  หรือ ผู้การเตเร ผู้บังคับกองพันรบพิเศษ ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลัง Karen National Liberation Army-Peace Council  - KNLA PC ลูกชายนายพลโบเมี๊ยะ อดีตประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ The Karen National Union - KNU  ได้เสียชีวิตแล้ว จากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19  
  พันเอก เนโซเมี๊ยะ  หรือ ผู้การเตเร ผู้บังคับกองพันรบพิเศษ กองกำลัง Karen National Liberation Army-Peace Council  - KNLA PC    

พันเอก เนโซเมี๊ยะ  หรือ ผู้การเตเร ก่อนเสียชีวิต เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของกองกำลัง KNLA PC ในตำแหน่งผู้บังคับการรบพิเศษ ที่ทำงานอย่างมุ่งมั่นจริงจังในการทำงาน เพื่อชาติพันธุ์กะเหรี่ยง "กอซูเล" (Kawthoolei)  เหมือนนายพลโบเมี๊ยะ ผู้เป็นบิดา    

 

และเป็นน้องชายนายพลเนอดา เมียะ  บุตรชายคนโตของนายพลโบเมียะ ผู้นำกองกำลัง Karen National Defence Oganization  ( KNDO)  ซึ่งทุกกองกำลังนั้นอยู่ในฝ่ายของ KNU ทั้งหมด 
   ภาพจากแฟ้มข่าว  

 

ลูกชายนายพลโบเมี๊ยะติดโควิดเสียชีวิตแล้ว

ล่าสุดกองกำลังกะเหรี่ยง และองค์แห่งชาติกะเหรี่ยง ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการถึงการเสียชีวิตครั้งนี้แล้ว และแจ้งให้ประชาชน กับกำลังพลทางทหาร ขอให้อยู่ที่ในที่มั่น ห้ามเคลื่อนไหว ขอพรจากพระเจ้าเพื่อรำลึกได้ที่บ้าน เนื่องจากจะไม่มีการเชิญบุคคลหรือทำพิธีทางศาสนาแต่อย่างใด 
    

สำหรับพันเอก เนโซเมี๊ยะ หรือ เตเร เป็นบุตรชายคนเล็กของ นายพลโบเมี๊ยะ อดีตผู้นำสูงสุดของสหภาพกระเหรี่ยง เข้าร่วมกับกองกำลัง KNLA PC  มากว่า 6 ปี และเป็นผู้ชักชวนให้สมาชิกชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงในเมียนมา สร้างกระบวนการสันติภาพ และหันมาทำการค้าแทนการสู้รบ อยู่อย่างสงบ ซึ่งก็สามารถทำได้ในระดับที่ดีมาก
    

ลูกชายนายพลโบเมี๊ยะติดโควิดเสียชีวิตแล้ว

นายพลโบเมี๊ยะ เป็นผู้นำกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเข้าต่อสู้กับกองทัพทหารเมียนมาตั้งแต่ปี 2519 และเสียชีวิตในปี 2549  ในวัย 79 ปี โดยในช่วงท้ายของชีวิตได้ลดบทบาทนำลง โดยมีลูกชายเข้ามามีบทบาทในกองกำลังกะเหรี่ยงแทน 
    

หลังทหารเมียนมายึดอำนาจเมื่อต้นปี 2564 จุดกระแสต่อต้านจากแทบทุกภาคส่วน ขณะที่ทหารเมียนมาเดินหน้าปราบปรามอย่างรุนแรง ขยายวงเป็นการปะทะกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ปะทุขึ้นหลายจุด รวมถึงแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ยังคงมีความตึงเครียดในเวลานี้