"แม่สอด"ผวาเมียนมารบกะเหรี่ยง"อาร์พีจี"ตกฝั่งไทย

03 มิ.ย. 2564 | 04:24 น.

    ทหารเมียนมารบกะเหรี่ยง กระสุนอาร์พีจีถูกยิงเข้าเขตไทย ตกใกล้คอกวัวบริเวณโค้งเมย จุดรวมพลผู้หนีภัยสู้รบกว่า 400 คน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด 

ทหารเมียนมา รบกองกำลังกะเหรี่ยง ล่าสุดมีกระสุนอาร์พีจีถูกยิงเข้าเขตไทย ตกใกล้คอกวัวบริเวณโค้งเมย แม่สอด จุดรวมพลผู้หนีภัยสู้รบกว่า 400 คน ทำวงแตกทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ลี้ภัย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด 
    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงตึงเครียด จากทหารรัฐบาลเมียนมา ที่สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.กลุ่มอิสระ ของพันเอกจ่อแต้ เป็นไปอย่างดุเดือด มีการใช้ทั้งอาวุธปืนค.60 และอาวุธอื่น ๆ นั้น 
  ราษฎรชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยสู้รบข้ามมาฝั่งไทยที่ฝ่ายความมั่นคงไทยจัดให้อยู่รวมกันตามแนวชายแดนรอเหตุการณ์สงบ    

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2564ทางฝ่ายทหารเมียนมาได้ใช้ปืนอาร์พีจี.ยิงเข้ามาเขตไทย ลงไปใกล้จุดผู้ลี้ภัยกว่า 400 คน ที่อาศัยอยู่ในคอกวัวบริเวณเมยโค้ง หรือใกล้เกาะมะนาว บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก  กระสุนได้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง รวมถึงผู้ลี้ภัย ต่างแตกตื่นหลบกันจ้าละหวั่น 
    

ล่าสุด มีผู้หนีภัยการสู้รบข้ามลำน้ำเมยซึ่งเป็นเส้นพรนแดนเข้ามาอีก 31 คน แม้นมีการสู้รบ เจ้าหน้าที่ก็ยังคงให้กลุ่มผู้หนีภัยอยู่ในคอกวัวของชาวบ้านใกล้กับแม่น้ำเมย
    

การสู้รบดังกล่าว ฝ่ายเมียนมาได้ใช้อาวุธปืนค.61 ยิงสนับสนุนจากฐานอาวุธหนัก ที่บริเวณเลเกตอ ห่างจากบ้านผาลูโพ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา  
    

แหล่งข่าวแจ้งว่า กลุ่มกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ได้ร่วมกับฝ่ายทหารดีเคบีเอ.ในการโจมตีทหารเมียนมา และล่าสุดฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอได้ปล่อยตัวตำรวจเมียนมา และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทั้งหมด 4 คนแล้ว โดยไม่ทำอันตรายใด ๆ
    

ช่วงนี้มีการปะทะหนักระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยตามแนวตะเข็บชายแดน  โดยเกิดการปะทะอย่างหนักในรัฐคะยา และ รัฐกะเหรี่ยง หลังกองทหารฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซุ่มโจมตีทหารเมียนมาในหลายพื้นที่ 
   เจ้าหน้าที่ทหารไทยเฝ้าระวังสังเกตการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยตามตะเข็บชายแดน  

พรมแดนไทย-เมียนมาเขตจ.แม่ฮ่องสอน ยังมีชนกลุ่มน้อยหนีภัยสู้รบข้ามเข้าเขตไทยเป็นระยะ

ขณะที่ชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ฝ่ายปกครองดูแลผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงอย่างใกล้ชิด ขณะที่ผู้ลี้ภัยจำนวนหนึ่งได้เดินทางกลับสู่เมียนมา หลังการสู้รบพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ได้สงบต่อเนื่องมาแล้วหลายวัน
  

 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แถลงถึงสถานการณ์ ชายแดนไทย-เมียนมา ถึงการสู้รบในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง บริเวณฐานด๊ากวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ในพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง เขตเมียนม่า รัฐกะเหรี่ยง ไม่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมาฐานด๊ากวิน กับ ทหารกะเหรี่ยง KNLA แต่อย่างใด และการใช้อากาศยานในการโจมตีทางอากาศได้หยุดต่อเนื่องเป็นเวลาต่อเนื่องถึง 32 วันแล้ว
    

ในส่วนของผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ที่หลบหนีภัยสงครามเข้ามาในไทย ปัจจุบันเหลือเพียง 255 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จำนวน 4 แห่งคือห้วยมะระ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 7 คน , ห้วยจอกลอ ต.แม่คง ฯ 80 คน , ห้วยโกรเกร๊ะ ต.แม่คง ฯ 135 คน และ บ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง 33 คน ส่วนผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ ได้เดินทางกลับไปสหภาพเมียนม่า จำนวน 363 คน
    

ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยทหาร นำเครื่องอุปโภคและเวชภัณฑ์ ไปมอบให้กับผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงที่ห้วยจอกลอ ซึ่งมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่จำนวน 80 คนส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชรา
  ทหารไทยจัดที่พักพิงชั่วคราวให้ราษฎรชนกลุ่มน้อยที่หนีภัยสู้รบเข้ามาในเขตไทย เพื่อรอผลักดันกลับเมื่อสถานการณ์สงบ    
 

บรรยากาศในศูนย์พักพิงผู้หนีภัยสู้รบตามแนวตะเข็บชายแดน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564  ที่ผ่านมา กองกำลังพิทักษ์ประชาชน People Defenfe Force / PDF จำนวน 80 นาย ได้บุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นทหารเมียนมา บริเวณหมู่บ้านดอหง่าคา ตั้งอยู่ระหว่างทางหลวงสาย อ.ดีมอโซว์ รัฐคะยา – จ.ตองอู ภาคตองอู ห่างจากจังหวัดลอยก่อว์ประมาณ 11 กม. 
    

ระหว่างการเข้าโจมตีของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF อยู่นั้น ทหารเมียนมาในฐานดังกล่าว ได้ร้องขอการสนับสนุนทางทหารและอาวุธหนัก จากกองบัญชาการจังหวัดลอยก่อว์ ทำให้มีการส่งทหารเมียนมา จำนวนไม่ต่ำกว่า 80 นาย เข้ามาช่วยเหลือ ทหารเมียนมาชุดที่บ้านดอหง่าคา ทำให้กองกำลังพิทักษ์ประชาชน ได้แยกกำลังออกไปทำการซุ่มโจมตี และเกิดการสู้รบติดพัน เป็น 2 กลุ่ม 
    

ขณะที่กองบัญชาการทหารจังหวัดลอยก่อว์ ได้สนันสนุนอาวุธหนัก ด้วยการยิงปืนใหญ่ขนาด 105 มม. สนับสนุนจำนวนกว่า 100 นัด พร้อมทั้งสนับสนุนทางอากาศ โดยนำเฮลิคอปเตอร์ โจมตีแบบ MI 35 จำนวน 2 ลำมาปฏิบัติการทางอากาศต่อกองกำลังพิทักษ์ประชาชน เบื้องต้นผลการสู้รบ ทหารเมียนมาเสียชีวิตจำนวน 23 นาย ส่วนกองกำลังพิทักษ์ประชาชน เสียชีวิตจำนวน 6 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย 
    

ในส่วนของพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564  ที่ผ่านมา กองกำลัง KNLA/KNU จากกองพัน 102 ได้ทำการซุ่มโจมตียานยนต์ลำเลียงเสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ ของทหารเมียนมา จำนวน 11 คัน ที่วิ่งเข้ามาในพื้นที่ กองพลน้อยที่ 5 เขตมูตรอ จ.ผาปูน เพื่อส่งเสบียงและยุทธปัจจัยให้กับทหารเมียนมาในแนวหน้า ที่กำลังสู้รบกับทหารกะเหรี่ยง ฯ ส่งผลให้ยานพาหนะเสียหายทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงเสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ และทหารเมียนมา เสียชีวิต 4 นายและได้บาดเจ็บจำนวนมาก

นอกจากดูแลด้านมนุษยธรรมผู้หนีภัยสู้รบ ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ควบคู่กันไปด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง