คลอดกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําคุมขังนักโทษ

12 ต.ค. 2563 | 13:03 น.

ราชทัณฑ์คลอดกฎกระทรวงกำหนดอาณาเขตในสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําให้เป็นที่คุมขังนักโทษ ที่เหลือโทษจําคุกไม่เกิน 3.6 ปี  หรือจําคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 


วันนี้(12 ต.ค.63) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศเผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ. ๒๕๖๓


อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้


“สถานที่คุมขัง” หมายความว่า สถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําซึ่งเป็นสถานที่ของทางราชการหรือ เอกชนที่เจ้าของหรือผู้ปกครองดูแลรักษาสถานที่อนุญาตหรือยินยอมเป็นหนังสือให้ใช้ประโยชน์ ในการควบคุมผู้ต้องขัง ทั้งนี้ ต้องไม่ใช่สถานที่ตามมาตรา ๘๙/๒ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา


ข้อ ๒ การกําหนดอาณาเขตของสถานที่คุมขัง จะกําหนดอาณาเขตของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งแปลง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ได้ โดยอสังหาริมทรัพย์ อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้


(๑) กรณีอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีขอบเขตที่แน่นอน และมีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะ เป็นการถาวรตั้งอยู่ สามารถใช้ประโยชน์จากอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องทําการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือปรับปรุงใหม่


(๒) กรณีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง ต้องมีลักษณะเป็นการถาวรและตั้งอยู่บนอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนที่จะกําหนดเป็นอาณาเขตของสถานที่คุมขังต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ต้องทําการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือปรับปรุงใหม่
 

 

ข้อ ๓ สถานที่คุมขังต้องมีวัตถุประสงค์ในการใช้คุมขังผู้ต้องขังเพื่อประโยชน์อย่างหนึ่ง อย่างใด ดังต่อไปนี้


(๑) การปฏิบัติตามระบบการจําแนกและการแยกคุมขัง (๒) การดําเนินการตามระบบการพัฒนาพฤตินิสัย (๓) การรักษาพยาบาลผู้ต้องขัง (๔) การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย


ข้อ ๔ สถานที่คุมขังตามข้อ ๓ (๑) ได้แก่ (๑) สถานที่สําหรับอยู่อาศัย (๒) สถานที่สําหรับควบคุม กักขัง หรือกักตัวตามกฎหมายของทางราชการที่มิใช่เรือนจํา ข้อ ๕ สถานที่คุมขังตามข้อ ๓ (๒) ได้แก่


(๑) สถานที่ราชการ หรือสถานที่ที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ในการจัดทําบริการสาธารณะ


(๒) สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ (๓) วัดตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ (๔) มัสยิดตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม (๕) สถานที่ทําการหรือสถานประกอบการของเอกชน


(๖) สถานที่ทําการของมูลนิธิ สถานสงเคราะห์ หรือสถานที่ที่ใช้สําหรับการสังคมสงเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นของทางราชการหรือเอกชน
 

 

ข้อ ๖ สถานที่คุมขังตามข้อ ๓ (๓) ได้แก่ สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน


ข้อ ๗ สถานที่คุมขังตามข้อ ๓ (๔) ได้แก่ สถานที่คุมขังตามข้อ ๓ (๑) (๒) หรือ (๓) ที่ใช้สําหรับคุมขังนักโทษเด็ดขาดที่เหลือกําหนดโทษจําคุกไม่เกินสามปีหกเดือน หรือต้องโทษจําคุก มาแล้วไม่น้อยกว่าสองในสามของกําหนดโทษครั้งหลังสุด ในกรณีที่เหลือกําหนดโทษจําคุกเกินสามปี หกเดือน


ข้อ ๘ เมื่ออธิบดีได้วางระเบียบตามมาตรา ๓๔ วรรคหนึ่ง เกี่ยวกับการบริหารงานและ การอื่นอันจําเป็นในสถานที่คุมขังใดตามข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๖ หรือข้อ ๗ แล้วแต่กรณี แล้วให้อธิบดี จัดให้มีบัญชีสถานที่คุมขังนั้นและประกาศในระบบสารสนเทศของกรมราชทัณฑ์ให้ทราบถึงอาณาเขต และวัตถุประสงค์ของสถานที่คุมขังแต่ละแห่งด้วย


ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓


สมศักดิ์ เทพสุทิน 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ บัญญัติให้การกําหนดอาณาเขตในสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําให้เป็นสถานที่คุมขัง เพื่อดําเนินกิจการตามภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนด ในกฎกระทรวง จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

     คลอดกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําคุมขังนักโทษ   คลอดกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําคุมขังนักโทษ    คลอดกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจําคุมขังนักโทษ