ใครเป็นใคร?  7 ขรก.การเมือง” ชุดแรก

รายงานพิเศษ : ใครเป็นใคร?  7 ขรก.การเมือง” ชุดแรก

 

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันอังคารที่ 30 ม.ค. 62 ครม.มีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมืองชุดแรกจำนวน 7 ตำแหน่งเท่านั้น ได้แก่ 1.นายประทีป กีรติเรขา เป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 2.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ประจำรองนายกรัฐมนตรีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) 3.ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 4.นางสาวเรวดี รัศมีทัต เป็น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 5.นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ  เป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 6.นายยุทธพล อังกินะนันทน์ เป็น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 7.นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ

 

“ฐานเศรษฐกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลประวัติของข้าราชการการเมืองทั้ง 7 คน ไว้ดังนี้

นายประทีป กีรติเรขา เกิดวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2501 เป็นอดีตอธิบดีกรมที่ดิน  อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้ว่าราชการ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ จบการศึกษาระดับมัธยมจาก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีจาก คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือ สิงห์ทอง และ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า

 

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ 1 เป็นนักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประเทศ การเงิน และตลาดทุน อดีตกรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ อดีตประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป อดีตกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ อดีตกรรมการในคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน กรรมการในคณะกรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายระยะเร่งด่วน รองประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารโครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น

 

นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการในคณะกรรมการสภาการศึกษา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุนและผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้บริหารส่วนกลยุทธ์นโยบายการเงิน สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย

 

ศาสตราจารย์ ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เพิ่งลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5  พรรคพลังประชารัฐ เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2516 อายุย่างเข้าสู่ 46 ปี จบการศึกษา สถิติศาสตรบัณฑิต (คณิตศาสตร์ประยุกต์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนไปศึกษาต่อที่ Master of Science (คณิตศาสตร์ประยุกต์) Georgia State University ประเทศสหรัฐอเมริกา,  Master of Business Administration (Applied Economics) University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา และ Doctor of Philosophy (Finance) University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกาเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)  ก่อนหน้านี้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง สมัยที่ นายอภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการเลือกตั้งส.ส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ศ.ดร.นฤมล มีบทบาทสำคัญในการช่วยเสนอแนะและร่างนโยบายให้กับพรรคพลังประชารัฐ สำหรับใช้หาเสียง โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับด้านการเกษตร มารดาประชารัฐ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน)

 

นางสาวเรวดี รัศมิทัต เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2512 อดีตผู้สมัครส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ พรรคภูมิใจไทย เป็นลูกสาวของนายอำนวย รัศมิทัต อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ คู่ปรับปากน้ำของตระกูลอัศวเหม สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาอุตสาหกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลและปริญญาโท ด้านการค้าและธุรกิจ จาก DEAKIN UNIVERSITY ประเทศออสเตรเลีย เคยเป็นส.ส.สมุทรปราการ ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 เป็นสมัยแรก สังกัดพรรคราษฎร และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย จากนั้นได้หันมาทำงานการเมืองในระดับท้องถิ่น ในตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ ระหว่างปี พ.ศ. 2551 ถึงปี พ.ศ. 2554 และได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.อีกสมัย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนการเลือกตั้งครั้งล่าสุดแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคพลังประชารัฐ

 

นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เกิดวันที่ 6 ธันวาคม 2516 อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคภูมิใจไทย จังหวัดสระบุรี การศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรี สาขาศิลปศาสตร์ สถาบันราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์  ปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง  เป็นชาวอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ ที่ปรึกษาประธานวุฒิสภา  ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี

 

นายยุทธพล อังกินันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.เพชรบุรี เกิดเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2515 เป็นบุตรของนายยุทธ อังกินันทน์ อดีตรัฐมนตรี ส.ส.เพชรบุรี 7 สมัยติดต่อกันกับนางบุปผา รอบรู้ (อังกินันทน์) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรีหลายสมัยติดต่อกัน การศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล (SG69) และโรงเรียนอรุณประดิษฐ จังหวัดเพชรบุรี ระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

เริ่มทำงานการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยการเป็นผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2541 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเพชรบุรี (ส.ท.) และได้รับการแต่งตั้งเป็นเทศมนตรีในปีเดียวกันด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี และเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายชุมพล ศิลปอาชา เป็น รมว.)  และในการเลือกตั้งส.ส. ปี 2554 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา และยังได้รับหน้าที่เป็นกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พร้อมกันนี้ยังได้รับตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐอีกด้วย ต่อมาในการเลือกตั้งส.ส. ปี 2557 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. เขต 1 จังหวัดเพชรบุรี และได้คะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งครั้งนั้น แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

 

ส่วน นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เกิดวันที่ 22 มกราคม 2509 ประวัติการศึกษา รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม บริหารธุรกิจบัณฑิต (การจัดการทั่วไป) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ส่วนการทำงานด้านการเมือง ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารอื่นของพรรคชาติไทยพัฒนา ประวัติการทำงาน อดีตผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

 

ทั้งนี้ในส่วนของข้าราชการการเมือง ยังมีอีกหลายกระทรวงที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง จึงต้องติดตามดูว่าใครบ้างที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งเหล่านี้ในกระทรวงอื่นๆ