'จรุงวิทย์' ทำงานอืด! ดองเรื่องสอบ 'ธนาธร' ปมถือครองหุ้นสื่อ

17 เม.ย. 2562 | 08:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่


กรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส. หรือไม่ เนื่องจากขณะสมัครรับเลือกตั้งยังถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจสื่อ ที่เข้าลักษณะต้องห้ามในการเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งนั้น

 

\'จรุงวิทย์\' ทำงานอืด! ดองเรื่องสอบ \'ธนาธร\' ปมถือครองหุ้นสื่อ

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2562 นายศรีสุวรรณได้เข้าให้ถ้อยคำกับ สำนักงาน กกต. และยังได้นำข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำตราสารโอนหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ที่ระบุว่า ห้ามบุคคลที่ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อมวลชนใด ๆ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. มอบให้กับ สำนักงาน กกต. ด้วย

โดยนายศรีสุวรรณเคยให้สัมภาษณ์ระบุว่า กรณีนายธนาธรออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีข้อสงสัยเรื่องการถือหุ้นใน บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด โดยอ้างว่า ได้โอนหุ้นดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้นระหว่าง นายธนาธร ผู้โอน กับนางสมพร ผู้รับโอน ฉบับลงวันที่ 8 ม.ค. 2562 มีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน

 


พร้อมกันนี้ ผู้โอนและผู้รับโอนกับพยานทั้ง 2 คน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี) ในวันเดียว นางสมพรได้ชำระเงินค่าหุ้นให้แก่นายธนาธรด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาถนนบางนา-ตราด (เซ็นทรัลซิตี้) ขีดคร่อมผู้ถือ (A/C PAYEE ONLY) ฉบับลงวันที่ 8 ม.ค. 2562 สั่งจ่าย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเงินจำนวน 6,750,000 บาทแล้วนั้น

 

\'จรุงวิทย์\' ทำงานอืด! ดองเรื่องสอบ \'ธนาธร\' ปมถือครองหุ้นสื่อ

 

กรณีดังกล่าวยังไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมดว่าจะเป็นการแถลงที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ โดยเฉพาะยังมีข้อพิรุธและข้อสงสัยอีกมากมาย

อาทิ ข้ออ้างว่า มีการจ่ายเช็คชำระเงินค่าหุ้นให้นายธนาธรและภรรยาแล้วนั้น มีการนำเช็คไปขึ้นเงินจริงหรือไม่ ในบัญชีธนาคารของคุณสมพร มีการถ่ายโอนเงินตามเช็คเข้าบัญชีของนายธนาธรและบัญชีภรรยาจริงหรือไม่ มีสเตทเมนต์ยืนยันหรือไม่ เพราะการเขียนเช็คนั้นจะเขียนขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ ดังนั้น จึงต้องพิสูจน์นิติกรรมการเคลื่อนไหวทางบัญชีของทั้ง 3 คน ว่า สอดคล้องต้องกันหรือไม่

ขณะเดียวกัน ยังมีประเด็นที่นายธนาธรอ้างว่า นางสมพรได้โอนหุ้นต่อไปให้หลาน 2 คน ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2562 แล้ว แต่เหตุใดหลานทั้ง 2 คน จึงโอนหุ้นกลับมาให้นางสมพรอีกในวันที่ 21 มี.ค. 2562 นิติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีการชำระเงินกันจริงหรือไม่ มีสเตทเมนต์ยืนยันระหว่างนางสมพรกับหลานหรือไม่ และหลานทั้งสองมีอำนาจทำนิติกรรมได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างตัวละครให้เป็นข้อมูลหรือพยานหลักฐานขึ้นมาใหม่ เพื่ออำพรางนิติกรรมของตนเอง หรือ ใช้เป็นข้ออ้างแก้ต่างกรณีถูกจับพิรุธในการประชุมกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ว่า เหตุใดยังคงมีกรรมการจำนวน 10 คน มาประชุมกัน

 


กรณีนี้ หาก กกต. วินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 (3) ลักษณะต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี

อย่างไรก็ตาม พบว่า การทำงานของ สำนักงาน กกต. ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในคดีถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธรนี้ เป็นไปอย่างชักช้าอืดอาด แทนที่จะเร่งตรวจสอบและสรุปเรื่องนี้ส่งให้คณะกรรมการ กกต. ทั้ง 7 คน ได้พิจารณา แต่กลับมีการ "ดองเรื่อง" ไว้ ทั้ง ๆ ที่ควรเร่งพิจารณาเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน


ดังนั้น ต้องจับตาว่าคดีนี้ จะถูก "ดอง" ไว้นานแค่ไหน?