'สุเทพ' หอบเอกสาร 94 หน้า แจง ป.ป.ช. ยัน! บริษัทที่ชนะการประมูลสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ไม่เสร็จทันตามกำหนด ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำสัญญาการประมูล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินทางมาให้ถ้อยคำกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจหรือโรงพักทดแทน 396 แห่ง โดยนายสุเทพได้เตรียมเอกสารชุดเดิมกว่า 94 หน้า ที่เคยยื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2558 มายื่นประกอบการชี้แจงอีก เพื่อนำมายื่นประกอบกับคำชี้แจงของตนเองในครั้งนี้ ส่วนการชี้มูลความผิดก็ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. แต่ตนมั่นใจว่า การกระทำของตนนั้นไม่มีความผิด ที่ผ่านมา ตนทำงานตามขั้นตอนและมีหลักฐานเอกสารทุกอย่างยืนยันความบริสุทธิ์ได้
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีการฮั้วประมูลเพื่อให้บางบริษัทได้รับการประมูลนั้น เรื่องนี้คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. มีอคติ เพราะถ้าอ่านข้อมูลเอกสารทั้งหมด คนธรรมดาก็เข้าใจได้ ไม่ต้องเป็นนักฎหมาย อยากบอกว่า สิ่งที่ ป.ป.ช. แถลงเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้สังคมเข้าใจผิด และตนได้รับความเสียหาย ป.ป.ช. เคยพูดเช่นนี้มาหลายครั้ง และตนก็เคยชี้แจงมาหลายรอบ แต่เรื่องก็ยังไม่ยุติ ดังนั้น จึงต้องออกมาชี้แจงความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีความเข้าใจ
นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนบริษัทที่ชนะการประมูลดำเนินการสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ไม่เสร็จทันตามกำหนด ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำสัญญาการประมูล เพราะเรื่องการทำสัญญาประมูลดำเนินการตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอนและถูกต้อง ส่วนขั้นตอนการก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้ควบคุมกำกับตามเวลา ซึ่งตนไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการควบคุมการก่อสร้าง
"การอนุมัติ การจัดซื้อจัดจ้าง การเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูล และการทำสัญญา ทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของการก่อสร้างว่าจะเสร็จหรือไม่เสร็จ" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า
"มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการประมูลแบบรายภาคมาเป็นการรวมศูนย์" นายสุเทพ กล่าวว่า เคยชี้แจงไปแล้วหลายรอบว่า ตอนที่อนุมัติครั้งแรกเป็นการพิจารณาตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็นผู้เสนอมา ซึ่งตนเห็นว่า มีเหตุผลเรื่องของการแยกสัญญาออกเป็น 9 ภาค จึงอนุมัติให้ดำเนินการ
แต่ต่อมา ในสมัยของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร. ได้เสนอแก้ไขสัญญาว่าจ้างใหม่ ให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณ ปี 2553 ที่ออกมา หลังจากที่ได้มีการอนุมัติโครงการครั้งแรกไปแล้ว โดยระบุว่า หากเป็นโครงการเดียวกันไม่สามารถแยกเป็นหลายสัญญาได้ จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาใหม่ ให้ถูกต้องตามระเบียบงบประมาณ ปี 2553 ซึ่งทุกโครงการก็ทำตามระเบียบดังกล่าว
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
"สุเทพ"ย้ำสร้างโรงพักไม่เสร็จ ไม่เกี่ยวสัญญาประมูล
●
ยุบกต.ตร.โรงพัก มอบกก.จังหวัดสอดส่องแทน