ส่องแลนมาร์คใหม่ “ทางหลวง” ปรับภูมิทัศน์โค้งเลข 9 ไทยสีชมพู จ.สกลนคร

09 ก.พ. 2566 | 04:39 น.

“ทางหลวง” ปรับภูมิทัศน์โค้งเลข 9 ไทยสีชมพู จ.สกลนคร 1.7 กม.แลนมาร์คใหม่ เชื่อมต่อการเดินทางแดนอีสาน หนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

นายสราวุธ   ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงสกลนครที่ 1 ได้ดำเนินกิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมบริเวณโค้งปิ้งงู บนทางหลวงหมายเลข 213 ตอน สร้างค้อ – สกลนคร ในพื้นที่ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร แล้วเสร็จ ระยะทางประมาณ 1.72 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชน

ส่องแลนมาร์คใหม่  “ทางหลวง” ปรับภูมิทัศน์โค้งเลข 9 ไทยสีชมพู จ.สกลนคร

สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์ในครั้งนี้ ทั้งหมด 3 โซน ประกอบด้วย


 1.โค้งเลข ๙ ไทยสีชมพู 
2.โซนป้ายอเมซิ่งโค้งปิ้งงู และเสาหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่ 
3.โซนประติมากรรมช้างไทย  
 

ส่วนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ประชาชนให้ความสนใจ คือ โค้งเลข ๙ ไทยสีชมพู เน้นปลูกพรรณไม้ที่มีสีชมพู สื่อความหมายถึงความรักและสุขภาพ ได้แก่ ชมพูพันธุ์ทิพย์ เฟื่องฟ้า เมื่อออกดอกจะทำให้ถนนบริเวณดังกล่าวเป็นสีชมพูทั้งสาย

ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ระหว่างรอดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานเต็มที่ แขวงฯ ได้นำต้นซากุระเทียม ซึ่งมีสีชมพูมาตกแต่งเพิ่มบริเวณเลขเก้าไทยบางส่วนก่อน ปัจจุบันมีประชาชนทยอยเข้ามาท่องเที่ยวและถ่ายรูปจำนวนมาก 

ส่องแลนมาร์คใหม่  “ทางหลวง” ปรับภูมิทัศน์โค้งเลข 9 ไทยสีชมพู จ.สกลนคร

ขณะเดียวกันกรมทางหลวงได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ใช้ทาง  โดยแขวงทางหลวงสกลนครที่ 1 ได้สั่งการให้หมวดทางหลวงทั้ง 6 แห่งที่อยู่ภายในสังกัดดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายถนนในความรับผิดชอบที่มีระยะทางกว่า 500 กม.
 

ทั้งนี้เป็นการปรับปรุงซ่อมแซมบริเวณที่มีการชำรุด ติดตั้งป้ายจราจร ป้ายเตือนต่างๆ ตีเส้นจราจรให้มีความเด่นชัด ทาสีเสาหลักนำทาง และตัดหญ้าบริเวณสองข้างทาง หรือเกาะกลางถนน ตรวจสอบไฟส่องสว่าง เพิ่มการมองเห็นและทัศนวิสัยในการขับขี่ให้สะดวก ปลอดภัย และลดอุบัติเหตุ 

ส่องแลนมาร์คใหม่  “ทางหลวง” ปรับภูมิทัศน์โค้งเลข 9 ไทยสีชมพู จ.สกลนคร

นอกจากนี้กรมฯได้มีการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว มีห้องน้ำ และจุดจอดรถบริการเพื่อความเป็นระเบียบไม่กีดขวางการจราจรบนไหล่ทาง เกิดความปลอดภัยในการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังจัดรถชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุจะต้องเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้ทันที