“ห้องเรียนเคมี ดาว” ชูผลสำเร็จลดเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา

28 พ.ย. 2565 | 09:55 น.

“ห้องเรียนเคมี ดาว” ชูผลสำเร็จลดเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา เตรียมขยายผลเพิ่มในปีถัดไป มุ่งหวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยในอนาคต

นายสุพจน์ เกตุโตประการ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ได้ดำเนินการเปิดเวทีประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์  DOW-CST AWARD  ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ในหัวข้อ Green Chemistry ภายใต้โครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว"

 

ทั้งนี้ เพื่อช่วยสร้างโอกาสที่เท่าเทียมด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ให้เด็กไทยได้ทำจริง โดยมีโรงเรียนทั่วประเทศส่งเข้าประกวดสูงสุดถึง 57 โครงงาน สะท้อนให้เห็นถึงการตื่นตัวและการเข้าถึงการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน (Small-Scale Chemistry Laboratory) ที่มากขึ้น เพราะนักเรียนได้ลงมือทดลองเอง ชุดการทดลองมีขนาดเล็ก มีความปลอดภัยสูง ใช้สารเคมีน้อย มีราคาถูก และประยุกต์ใช้สิ่งของในท้องถิ่นมาทดลองได้ จึงช่วยกระจายโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

 

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวDow ได้ร่วมกับสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ (CST) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) โดยมุ่งหวังที่จะทำให้เด็กทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดห่างไกล มีโอกาสเช่นเดียวกันในการลงมือทดลองด้วยตัวเอง เกิดความเข้าใจ และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเสริมสร้างให้เกิดนักวิทยาศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยในอนาคต

ศ.ดร.วุฒิชัย พาราสุข นายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า เทคนิคปฏิบัติการแบบย่อส่วน ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ซับซ้อน ราคาย่อมเยาว์ สารเคมีที่เลือกใช้สามารถหาได้ง่ายและใช้ในปริมาณที่น้อยมากมาก จึงปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม 

 

อย่างไรก็ตามยิ่งอุปกรณ์ไม่ซับซ้อนเท่าไร การทดลองที่นำมาใช้ต้องมีการออกแบบมาอย่างดี ต้องมีความลุ่มลึก ซึ่งการทำการทดลองด้วยเทคนิคปฏิบัติการแบบย่อส่วนจะทำให้ผู้เรียนเกิดการคิด วิเคราะห์ และเข้าใจหลักการทางเคมีได้อย่างลึกซึ้ง จึงเหมาะที่นำมาใช้ร่วมกับการเรียนการสอนในโรงเรียน 

 

ห้องเรียนเคมี ดาว  ชูผลสำเร็จลดเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา

ดร.โชติมา หนูพริก รองผู้อำนวยการ สพฐ. กล่าวว่า การประกวดสะท้อนให้เห็นว่าคุณครูได้นำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน ไปประยุกต์ใช้ในบทเรียนของห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในหลักสูตรให้สอดรับกับบริบทของท้องถิ่นได้จริง จนสามารถส่งโครงงานที่มีความคิดสร้างสรรค์สู่เวทีการประกวดได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเป็นผลจากการที่ สพฐ. ร่วมกับพันธมิตรในโครงการฯ ขยายผลการสอนด้วยวิธีการนี้ และแน่นอนว่าเราจะยังคงร่วมมือกันขยายผลให้กับโรงเรียนในสังกัดสพฐ. ต่อไป เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ของประเทศไทย

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการ อพวช.กล่าวว่า อพวช. มุ่งมั่นที่จะทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชนคนไทยได้เข้าถึงวิทยาศาสตร์ให้ได้มากที่สุด และทำให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สนุกสนานและใกล้ตัว ผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยกิจกรรมการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์  DOW-CST AWARD  ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ อพวช. สนับสนุนและผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนและคุณครูได้มีเวทีในการแสดงศักยภาพขวนขวายหาความรู้นอกเหนือจากในบทเรียน

 

ทำให้การเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์สนุกสนานและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ โดยสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ต่อยอดและประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้ต่อไป

 

ศ.ดร.ศุภวรรณ ตันตยานนท์ ผู้อำนวยการโครงการห้องเรียนเคมีดาว สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การทดลองแบบย่อส่วนได้รับการยอมรับจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ที่ปัจจุบันมีการนำไปใช้ในการเรียนการสอน ทั้งในประเทศอังกฤษ  เยอรมนี ออสเตรเลีย เม็กซิโก ฟิลิปินส์ ญี่ปุ่น และ จีน เป็นต้น โดยปัจจุบัน โครงการห้องเรียนเคมีดาว ได้จัดอบรมให้กับคุณครูทั่วประเทศแล้ว 2,086 คน จาก 1,237 โรงเรียน และมีนักเรียนที่เข้าร่วมเรียนรู้จากโครงการนี้โดยตรงแล้วกว่า 310,000 คน และยังมีแผนที่จะขยายผลต่อไป