แอบติด GPS เครื่องดักฟัง ทำไม่ได้ สภาทนายความ ชี้โทษถึงคุก

28 มี.ค. 2567 | 02:24 น.

ทนายเจษฎา ปิยะสุวรรณวานิช กรรมการเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ เคลียร์ประเด็น แอบติด GPS เครื่องดักฟัง รถผู้อื่น ทำไม่ได้ มีความผิดทั้งแพ่ง อาญา โทษถึงคุก

จากกรณีมีผู้ซื้อรถมือสอง จากเต็นท์รถยนต์แห่งหนึ่งในซอยลาซาล แขวงบางนา เขตบางนา หลังจากออกรถมาได้เพียง 11 วัน ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์มายึดรถคันดังกล่าว ด้านน้องชายของผู้เสียหายไม่ยินยอมให้ยึดรถจึงขับหลบออกมา หลังจากนั้นได้นำรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบหาเครื่อง GPS ตามคำแนะนำของบุคคลคนหนึ่ง ทำให้ได้พบว่า รถคันดังกล่าวมีการติดตั้งเครื่องติดตามรถ GPS พร้อมไมค์โครโฟนอยู่ที่บริเวณหลังพวงมาลัย ผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางเขน

ด้านเจ้าของเต็นท์รถดังกล่าว ได้ยอมรับว่าติดตั้ง GPS ไว้ที่รถจริง และติดในรถทุกคันของเต็นท์ เนื่องจากเป็นการผ่อนโดยตรงกับเต็นท์ ต้องติดไว้เพื่อป้องกันลูกค้าหนีเพื่อปกป้องทรัพย์สินของทางเต็นท์

แอบติด GPS เครื่องดักฟัง ทำไม่ได้ สภาทนายความ ชี้โทษถึงคุก

ฐานเศรษฐกิจ สัมภาษณ์พิเศษ ทนายเจษฎา ปิยะสุวรรณวานิช กรรมการเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ ถึงกรณีดังกล่าว โดยทนายเจษฎาระบุว่า การแอบติดตั้งเครื่องติดตามรถ GPS พร้อมไมค์โครโฟน ไม่สามารถทำได้ และอาจมีความผิดทั้งกฎหมายแพ่ง และกฎหมายอาญา

โดยความผิดทางละเมิดนั้น เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ถือเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ,มาตรา 422 ถ้าความเสียหายเกิดจากการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใด อันมีที่ความประสงค์เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่นๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นผู้ผิด เป็นต้น

แอบติด GPS เครื่องดักฟัง ทำไม่ได้ สภาทนายความ ชี้โทษถึงคุก

สำหรับความผิดทางอาญา เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

นอกจากนี้การดักฟังยังอาจมีความผิดตามพ.ร.บ.การประกอบกิจการคมนาคม มาตรา 74 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อดักรับไว้ ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคม โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ