จัดงบบูรณปฏิสังขรณ์ วัดอายุเกิน 100 ปี ทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้

12 ธ.ค. 2565 | 02:42 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2565 | 09:52 น.

รัฐบาลเตรียมบูรณปฏิสังขรณ์ วัดอายุมากกว่า 100 ปี 138 แห่งจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเปิดพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน เดินหน้าสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนใต้

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ผู้เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมศิลปากร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ดำเนินโครงการ การปฏิสังขรณ์วัดที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งมีอยู่ 138 แห่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ชำรุดทรุดโทรมจำนวนมาก รวมถึงวัดที่อยู่ในพื้นที่โดดเดี่ยว ห่างไกล ให้กลับสู่สภาพปกติ

 

ทั้งนี้เพื่อให้ชุมชนไทยพุทธ ได้มีวัดในพื้นที่เป็นศูนย์รวมจิตใจสามารถประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ตามปกติ และสร้างพื้นที่กลางทางศาสนาเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม 

 

การบูรณปฏิสังขรณ์ วัดอายุมากกว่า 100 ปี ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เบื้องต้น ในปี 2566 จะดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดเก่า 10 แห่ง และ 7 วัดที่อยู่ห่างไกล ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีให้การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดการมีส่วนร่วม และให้ความสำคัญของสังคมพหุวัฒนธรรม

 

การบูรณปฏิสังขรณ์ วัดอายุมากกว่า 100 ปี ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

ควบคู่กันไป รัฐบาลให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์มัสยิดเก่าแก่ และได้สร้างพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานในพื้นที่ของโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานโบราณและมรดกวัฒนธรรมอิสลาม 

 

รวมทั้งเป็นสถานที่จัดเก็บและจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นสื่อกลางในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีอันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ขณะนี้ มีชาวต่างชาติและนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศมาเยือนจำนวนมาก คาดจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

ทั้งนี้นอกจากการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน และอนุรักษ์โบราณวัตถุทางศาสนาแล้ว รัฐบาลยังได้จัดสรรงบประมาณให้กับ ศอ.บต เพื่อพาชาวไทยพุทธไปแสวงบุญที่สังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย – เนปาล ในช่วงต้นปีหน้า และชาวไทยมุสลิมจะได้ไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย 

 

โดยต้องเป็นผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้รับการคัดสรรจากคณะกรรมการ ซึ่งการพาประชาชนไปแสวงบุญดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการทำหน้าที่ของผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาพื้นที่ และทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม และจะได้ต่อยอดการสร้างคนดีสร้างสันติสุข สร้างคุณธรรมในสังคมต่อไป